สัปดาห์นี้ เราจะมาพูดถึงกุญแจสำคัญ ที่ช่วยให้เราได้รับประสบการณ์การเร่งวันคืนจากพระเจ้ากันต่อ
คุณเคยได้รับแรงบันดาลใจ จากทัศนคติที่เปล่งประกายของใครบางคนไหม?
เมื่อฉันและทีมงานของ “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” ได้เข้าไปอ่านและตอบข้อความที่พี่น้องส่งมา มีหลายครั้งที่พี่น้องส่งข้อความมาแสดงความขอบคุณพวกเรา เพราะข้อความของเราได้สัมผัสใจของพวกเขา
ทัศนคติที่ดีที่สุดคือ การรู้สึกขอบคุณ เมื่อเราขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ประทานให้เรา ชีวิตของเราก็จะกลายเป็นพระพร
บางครั้ง ชีวิตของเราก็ยากลำบาก จนอาจถึงจุดที่แบกรับไม่ไหว และเจ็บปวด แต่งานของพระเจ้าที่ทำกับเรานั้น ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ ความเมตตาของพระองค์ใหม่ทุกเช้า และการขอบคุณพระองค์จะสร้างบรรยากาศในตัวเราและรอบๆ ตัวเราให้ดีขึ้น ทั้งตัวเราและคนรอบข้างก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย
ข่าวดีคือ การรู้สึกขอบพระคุณเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้ อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเนื่องจากความขัดสน เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในสภาพที่เป็นอยู่” (ฟีลิปปี 4:11)
ลองนึกถึงเปาโลและสิลาสที่อยู่ในคุกมืดยามค่ำคืน หลังจากถูกโบยตี… พวกเขากลับร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้าทรงตอบสนองต่อความรู้สึกแห่งการขอบพระคุณของพวกเขา ให้เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวและพระพรอันยิ่งใหญ่ ถึงขนาดที่ผู้คุมและครอบครัวของเขาได้รับบัพติศมาในคืนนั้น (ดูพระธรรมกิจการ 16:22-36)
กุญแจดอกที่สอง ในการรับประสบการณ์การเร่งวันคืนจากพระเจ้าคือ… การสำแดงออกซึ่งความรู้สึกขอบพระคุณตลอดเวลา การขอบพระคุณจะทำให้ชีวิตของเราเป็นพระพร และพระพรนี้ที่เริ่มต้นในตัวคุณและแผ่ขยายไปถึงผู้อื่นด้วย
ฉันขอเชิญชวนให้คุณฝึกฝนสิ่งนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เริ่มขอบคุณสำหรับสิ่งที่คุณมี แม้แต่สิ่งที่ดูเล็กน้อยที่สุดสำหรับคุณ เย็นนี้ คุณอาจลองจดบันทึกคำขอบคุณเหล่านั้นลงในสมุดบันทึก และเข้านอนด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอบพระคุณ และพรุ่งนี้เช้า ก็ทำแบบเดียวกัน ฉันเชื่อว่า คุณจะได้พบกับการอัศจรรย์มากมายที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณ
ขอให้คุณมีวันที่ได้รับพระพรและสวยงาม
คุณคือการอัศจรรย์