ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่หายไปในยุคสมัยนี้ มันอาจจะดู “เชย” หรือ “ล้าสมัย” แต่ดีที่พระเจ้าไม่ทรงเป็นเหมือนมนุษย์ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและกระแสของโลก…
กษัตริย์ดาวิดทรงยอมรับและสัมผัสกับความซื่อสัตย์ของพระองค์ โดยทรงยืนยันว่า “ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือเห็นพงศ์พันธุ์ของเขาขอทาน” (สดุดี 37:25)
การแสดงความซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันไม่ใช่ธรรมชาติของเราเท่าไหร่ ฉันเชื่อว่า ถึงแม้เราจะพยายามอย่างมาก แต่ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าแล้ว การเป็นคนซื่อสัตย์ให้ได้ทุกที่ตลอดเวลานั้น คงเป็นไปไม่ได้ ดังที่พระธรรมสุภาษิตกล่าววไว้ “คนมากมายป่าวร้องความจงรักภักดีของตัวเอง แต่ใครจะหาคนซื่อสัตย์พบเล่า?” (สุภาษิต 20:6)
ในทางตรงกันข้าม ความซื่อสัตย์นั้นเป็นพระลักษณะของพระเจ้า คุณรู้ไหมว่า… พระเจ้าทรงพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของพระองค์ที่มีต่อคุณอย่างไร?
● โดยการรักษาสัญญาของพระองค์ (ดู ฮีบรู 10:23)
● โดยการมอบพระสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างคุณ ตลอดชีวิตของคุณ (ดู มัทธิว 28:20)
● โดยการอยู่เคียงข้างคุณ (ดู ฮีบรู 13:5)
● โดยการประทานพันธสัญญานิรันดร์กับคุณ (ดู อิสยาห์ 61:8)
● โดยการทรงมั่นคง แม้ว่าคุณอาจจะไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ก็ตาม (ดู 2 ทิโมธี 2:13)
● โดยการยกโทษบาปให้แก่คุณ (ดู 1 ยอห์น 1:9)
บางทีคุณอาจจะถูกคนที่คุณรักทำให้ผิดหวัง ถูกคู่ครองทรยศ หรือถูกทอดทิ้งในวัยเด็ก พระเจ้าทรงต้องการย้ำเตือนคุณในวันนี้ว่า พระองค์ทรงซื่อสัตย์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
คุณวางใจในพระองค์ได้เสมอ พระองค์จะไม่มีวันลืมคุณ ความรักของพระองค์ที่พระองค์มีต่อคุณจะไม่มีวันจางหาย พันธสัญญาของพระองค์ที่มีต่อคุณนั้น เป็นพันธสัญญานิรันดร์ พระองค์จะไม่มีวันทำให้คุณผิดหวัง…ขอให้คุณมั่นใจ
อธิษฐานด้วยกันกับฉันนะคะ “พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ลูกขอขอบพระคุณสำหรับความซื่อสัตย์ที่มีต่อลูก ลูกขอบพระคุณที่พระองค์ยังคงทรงแสนดี และทรงรักษาพระสัญญาเสมอ ลูกขอการอภัยโทษจากพระองค์ สำหรับความไม่มั่นคงของลูกในบางครั้ง และลูกต้องการการช่วยเหลือจากพระองค์ เพื่อให้ลูกเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น ในพระนามพระเยซู เอเมน”
สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความสัตย์ซื่อของพระองค์
คุณคือการอัศจรรย์