The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!
พระเจ้าทรงเป็นเหมือนเงาของคุณ
คุณเคยอ่านเรื่อง “ปีเตอร์ แพน” ไหม ถ้าเคย คุณจำเหตุการณ์ที่เงาของปีเตอร์หายไปได้ไหม? เขาไล่ตามมันไปรอบๆห้องและพยายามเอามันคืนมา แต่บางครั้งมันเร็วกว่าเขา แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เงาของเราจะเคลื่อนที่เร็วหรือช้ากว่าเรา แต่ภาพของเราไม่เหมือนกับปีเตอร์ แพน เงาของเรา “จะติดอยู่กับตัวเรา” มันจะไม่สามารถแยกออกไปจากตัวเราได้เลย พระวจนะของพระเจ้ากล่าวว่า “ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก พระองค์จะไม่ทรงให้เท้าของท่านสะดุดล้ม พระองค์ผู้ทรงอารักขาท่านจะไม่เคลิ้มหลับไป ดูเถิด พระองค์ผู้ทรงอารักขาอิสราเอล จะไม่ทรงหลับสนิทหรือนิทรา” (สดุดี 121:2-4) พระเจ้าทรงเป็นเหมือนเงาของเรา พระองค์จะไม่ถูกนำออกไปหรือแยกไปจากเรา เมื่อคุณตื่นขึ้น พระองค์ทรงอยู่ที่นั่น เมื่อคุณนอนลง…
พระองค์ทรงสดับฟังคุณ
คุณจะทำอย่างไร ถ้าคุณตกลงไปในบ่อน้ำ? คุณคงยกแขนขึ้นแล้วร้องขอความช่วยเหลือด้วยกำลังทั้งหมดที่คุณมีใช่ไหม? คุณสามารถทำแบบเดียวกันนี้ได้เมื่อคุณกำลังตกอยู่ในความทุกข์ยากที่ดูเหมือนเป็นบ่อน้ำที่มองไม่เห็น ชูมือของคุณขึ้นต่อพระเจ้า และร้องขอการช่วยกู้จากพระองค์ พระองค์จะไม่ช้าในการช่วยกู้คุณ ในพระคัมภีร์กล่าวว่า “เมื่อคนชอบธรรมร้องทูล พระยาห์เวห์ทรงสดับ และทรงช่วยกู้เขาให้พ้นจากความยากลำบากทั้งสิ้น” (สดุดี 34:17) คุณคิดว่าเป็นคนชอบธรรมหรือเปล่า? พระเจ้าจะสดับฟังคุณไหมเมื่อคุณร้องต่อพระองค์? แน่นอน คุณชอบธรรมเพราะคุณเชื่อว่าพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อคุณ และพระโลหิตของพระองค์ทรงชำระคุณ พูดอีกอย่างคือ พระองค์ทรงทำให้คุณชอบธรรม และพระเจ้าจะฟังคุณเมื่อคุณร้องทูลต่อพระองค์ เพราะคุณคือลูกของพระองค์ เพราะคุณคือความชอบธรรมของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ เมื่อคุณร้องต่อพระเจ้า พระองค์จะฟังคุณและจะช่วยคุณจากปัญหาต่างๆของคุณ หากคุณต้องการทูลต่อพระองค์ คุณสามารถอธิษฐานด้วยกันกับฉันได้เดี๋ยวนี้เลย “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ผู้ทรงรู้จักลูก ผู้ทรงรู้ถึงทุกอย่างที่ลูกกำลังเผชิญอยู่…
พระเจ้าทรงสดับฟังคุณจากเบื้องสูง
คุณทำอย่างไรเมื่อความเศร้าโศกครอบครองจิตใจของคุณ? คุณจะทำอย่างไรเมื่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายพยายามที่จะหว่านความหวาดกลัวไปทั่วทั้งประเทศ? หรือเมื่อทุกสิ่งดูมืดมนและน่ากลัวอยู่รอบตัวคุณ? บางสถานการณ์ดูเหมือนจะสามารถอยู่เหนือคุณได้อย่างสมบูรณ์ เราจึงรู้สึกถูกครอบงำด้วยความกลัวและคำถามมากมายของเราเอง มีเพียงสิ่งเดียวที่เราทำได้ คือร้องออกพระนามพระเจ้าในสถานการณ์นี้ พูดได้อีกอย่างคือ วิงวอนต่อพระองค์ แสวงหาพระองค์ ร้องทูลต่อพระองค์ พระเจ้าไม่ทรงนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ที่ดูเหมือนสิ้นหวังนี้ ในทางตรงกันข้าม พระกรรณของพระองค์กลับเปิดอยู่เพื่อฟังคนของพระองค์ และพร้อมจะเข้ามาแทรกแซงในการช่วยเหลือพวกเขา ในพระคัมภีร์กล่าวว่า “ถ้าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสียจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย” (2 พงศาวดาร 7:14) พระเจ้าทรงเอียงพระกรรณของพระองค์มายังคุณ สดับฟังเสียงของคุณ และพร้อมเข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ต่างๆเพื่อคุณ คนชอบธรรมจะตั้งมั่นคงอยู่โดยองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ่อมใจของคุณลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ ยอมรับความกำจัดของคุณ…
ความช่วยเหลือของคุณมาจากที่ไหน?
กษัตริย์ดาวิดมักตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายบ่อยครั้ง ดาวิดพูดถึงความยากลำบากหลายต่อหลายครั้งในพระธรรมสดุดีของเขา หลายครั้งกษัตริย์ซาอูลและคนมากมายไล่ฆ่าเขา ถึงดาวิดรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเช่นนี้ เขาก็ยังประกาศว่า “ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากไหน? ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” (สดุดี 121:1-2) ดาวิดเข้าใกล้ความตายเป็นอย่างมาก เพราะผู้คนต่างตามหาเพื่อจะกำจัดเขา แต่ดาวิดก็ยังคงประกาศอย่างชัดเจนว่า “ความช่วยเหลือของข้าพระองค์มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า” ดาวิดเชื่อในพระเจ้าของเขา เขาเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเขาจะไม่ละทิ้งเขา แต่พระองค์จะมาช่วยเขาอีกครั้ง ฉันอยากบอกคุณ และย้ำเตือนคุณวันนี้ว่า การช่วยเหลือของคุณไม่ได้อยู่ในมนุษย์ หรือสถานการณ์ แต่อยู่ในพระเยซูเท่านั้น บทเพลงนี้ของ W501 ถือเป็นเครื่องเตือนใจที่ยอดเยี่ยมมากของความจริงนี้ เมื่อสัปดาห์นี้เริ่มต้นขึ้น ฉันอยากชวนคุณที่จะหันมาหาพระองค์ และวางใจพระองค์ในทุกสิ่ง…
ให้คลื่นของพระเจ้าไหลผ่านคุณ
“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ข้าแต่พระเจ้าจิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและภูเขาเฮอร์โมน ตั้งแต่เนินมิซาร์” (สดุดี 42:5-6) บางครั้งชีวิตของเราก็เหมือนกับทะเลทราย ที่ตัวเราเองติดอยู่ระหว่างเนินทรายสองแห่ง ทำให้เรามองไม่เห็นหนทาง แล้วปัญหาต่างๆก็จะแผดเผาเรา นอกจากว่าเราจะหาพื้นที่ร่มเจอ แต่ข่าวดีคือ พระเจ้าได้ทรงสร้างแม่น้ำในทะเลทรายแล้ว “และท่านสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นแม่น้ำที่มีน้ำแห่งชีวิต ใสเหมือนอย่างแก้วผลึก ไหลมาจากพระที่นั่งของพระเจ้าและของพระเมษโปดก ไปที่กลางถนนของนครนั้น และริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งมีต้นไม้แห่งชีวิต ที่ออกผลสิบสองชนิด มันออกผลทุกเดือน และใบของต้นไม้นั้นใช้สำหรับรักษาโรคของบรรดาประชาชาติ” (วิวรณ์ 22:1-2)…
ระลึกถึงพระเจ้า…
“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ข้าแต่พระเจ้าจิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและภูเขาเฮอร์โมน ตั้งแต่เนินมิซาร์” (สดุดี 42:5-6) ฉันเคยอ่านเรื่องเล่านึงเกี่ยวกับคุณครูที่เขียนแม่สูตรคูณแม่ 9 ลงบนกระดาน เธอเขียนว่า 9×1=79×2=189×3=279×4=369×5=459×6=549×7=639×8=729×9=819×10=90 เมื่อเธอเขียนเสร็จ เธอก็มองไปที่นักเรียนของเธอ และทุกคนต่างพากันหัวเราะเธอ เพราะเธอเขียนสูตรคูณข้อแรกผิด แต่เธอตั้งใจเขียนแบบนั้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง เธอบอกพวกเขาว่า ในขณะที่เธอเขียนทั้ง 9 ข้ออย่างถูกต้อง แต่ผิดเพียงข้อเดียว เธอกลับถูกหัวเราะเยาะและตัดสินจากความผิดพลาดเพียงข้อเดียว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับโลกนี้ที่ปฏิบัติกับพวกเขาแบบนั้นเช่นกัน…
จะทำอย่างไรเมื่อความท้อแท้ใจกลับมาอีก?
“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและภูเขาเฮอร์โมน ตั้งแต่เนินมิซาร์” (สดุดี 42:5-6) พระเจ้า จิตใจภายในของลูกกำลังกระสับกระส่ายอยู่ คุณเคยสัมผัสได้แบบนั้นสักครั้งไหมที่ความท้อแท้ใจกลับมาเคาะที่ประตูใจของเราอีกครั้ง โดยที่ไม่เข้าใจว่าทำไม? คุณทำอย่างไรเมื่อคุณคิดว่าคุณจัดการกับมันไปเรียบร้อยแล้ว แต่มันกลับมาในชีวิตคุณอีกครั้งและแย่ยิ่งกว่าเดิม? ฉันเชื่ออย่างมั่นใจว่า เป็นการดีที่เราจะพูดกับพระเจ้าเหมือนที่คุยพูดคุยกับเพื่อน และแบ่งปันความโศกเศร้าของคุณอย่างสัตย์จริงกับพระองค์ ดาวิดผู้ที่พระเจ้าพอพระทัยเข้าใจสิ่งนี้ดี “เจ้าทุกคนผู้ทำความชั่ว จงพรากไปจากข้า เพราะพระยาห์เวห์ทรงสดับเสียงร้องไห้ของข้าแล้ว” (สดุดี 6:8) พระเยซูพระองค์เองก็ประสบกับความทุกข์ใจเช่นกันขณะที่พระองค์อยู่ในสวนเกทเสมนี…
ได้เวลาเปลี่ยนโฟกัสแล้ว
“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและภูเขาเฮอร์โมน ตั้งแต่เนินมิซาร์” (สดุดี 42:5-6) ฉันอยากชวนคุณให้เปลี่ยนแปลงการตัดพ้อของคุณด้วยคำสรรเสริญด้วยกัน คุณคงถามว่า ทำไมล่ะ? ก็เพราะพระคำของพระเจ้าตรัสว่า… “ถึงอย่างไร พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ ผู้ประทับเหนือคำสรรเสริญของคนอิสราเอล” (สดุดี 22:3) “ข้าพเจ้าหวนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงมีความหวัง ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก”…
จงหวังในพระเจ้า
“จิตใจของข้าเอ๋ย ไฉนเจ้าจึงฝ่ออยู่? ไฉนเจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ภายใน? จงหวังในพระเจ้า เพราะข้าจะยกย่องพระองค์อีก ผู้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์ฝ่ออยู่ภายใน เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์จึงระลึกถึงพระองค์ จากดินแดนแห่งแม่น้ำจอร์แดนและภูเขาเฮอร์โมน ตั้งแต่เนินมิซาร์” (สดุดี 42:5-6) ลองใช้เวลาสั้นๆในการสำรวจชีวิตของคุณทุกวันนี้ดูว่า คุณวางความหวังของคุณไว้ที่ไหน? ใครหรืออะไรที่คุณวางใจให้สามารถตอบสนองความจำเป็นของคุณได้? ฉันไม่รู้สถานการณ์ของคุณหรอกนะคะ แต่ฉันมั่นใจอย่างนึงว่า ในทุกสถานการณ์มันจะดีมากยิ่งกว่า ถ้าเราหวังใจในพระเจ้า พระเจ้าทรงรู้ว่าจะตอบแทนและให้รางวัลแก่ผู้ที่วางใจในพระองค์อย่างไร พระวจนะบอกกับเราว่า “แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็นที่พอพระทัยเลย เพราะว่าผู้ที่จะมาเฝ้าพระเจ้านั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์” (ฮีบรู 11:6)…