The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!
ฟังเสียงพระเจ้า
หูของคุณกำลังเปิดออกอยู่หรือเปล่าในเช้านี้? คุณได้ยินเสียงอันอ่อนสุภาพของพระเจ้าที่กำลังตรัสกับใจของคุณอยู่มั้ย? การเรียนรู้ที่จะฟังพระเจ้า ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์ด้วย “เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อจะกราบทูลพระองค์ ท่านได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับท่านมาจากพระที่นั่งกรุณา ซึ่งอยู่บนหีบแห่งสักขีพยานระหว่างเครูบทั้งสอง และพระองค์ทรงสนทนากับท่าน” (กันดารวิถี 7:89) พระเจ้าทรงตรัสค่อนข้างบ่อย และพระองค์ทรงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะตรัสกับคุณ ฉันชอบที่จะหยุดบ้างบางครั้งเวลาอธิษฐานเพื่อเป็นการง่ายที่จะเงียบและถามพระองค์ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงคิดเห็นต่อสถานการณ์ต่างๆในชีวิตของฉัน แล้วฉันก็จะเขียนทุกสิ่งที่เข้ามาในใจของฉัน โดยไม่หยุดคิดเลย และหลังจากนั้น ฉันก็ใคร่ครวญได้ว่า ทุกสิ่งที่สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้าจะมาจากพระองค์เท่านั้น ที่เหลือนั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากตัวฉันเอง ระหว่างช่วงเวลาของการฟังนี้ ฉันขอให้พระเจ้าทรงย้ำเตือนกับฉันว่าฉันเป็นใครและพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของชีวิตฉัน เรามักจะคิดว่าพระเจ้าตรัสกับคนอื่นแต่ไม่ใช่ตรัสกับเราโดยเฉพาะ และเราก็ยังคงรอคอยที่จะฟังว่าพระองค์จะพูดอะไรกับเรา นั่นเพราะเราเพียงแค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มฟังเสียงของพระองค์ได้อย่างไร “เพราะพระเจ้าตรัสวิธีหนึ่ง เออ สองวิธี แต่มนุษย์ไม่รับรู้” (โยบ…
จงบากบั่น
คุณรู้สึกว่ากำลังพบทางตันในบางเรื่องในชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า? ฉันอยากหนุนใจคุณในวันนี้ด้วยขอพระคัมภีร์ตอนหนึ่งที่อาจารย์เปาโลเขียนไว้ในพระธรรมโรม “ยิ่งกว่านั้น เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เป็นเช่นนั้นทำให้มีความหวัง” (โรม 5:3-4) เป็นเรื่องยากใช่ไหมคะ ที่จะยินดีในความยากลำบากและอวดอ้างสิ่งนั้นอย่างภาคภูมิใจได้ เมื่อเราเผชิญกับความล้มเหลวในการทดสอบครั้งสำคัญ หรือความเจ็บป่วยกำลังคุกคามชีวิตของเรา เราคงอยากจะบอกกับเปาโลมากเลยว่า ในสถานการณ์แบบนั้น เรายังอยู่ห่างไกลจากความรู้สึกภาคภูมิใจไปเยอะมาก ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณเลือกที่จะบากบั่นต่อไปท่ามกลางความยากลำบาก (ทั้งในเรื่องการอธิษฐาน ความรักของคุณ การให้อภัย การทรงเรียกของคุณ ความเชื่อของคุณ) เป็นพระบิดาของคุณและทูตสวรรค์ของพระองค์ที่กำลังภาคภูมิใจในคุณ และเอาใจช่วยคุณอยู่ หลังจากการบากบั่นด้วยความเชื่อฟัง และคุณนำชัยชนะกลับมาได้ พระเจ้าก็ยังคงพูดต่อไปว่า “เราภูมิใจในเจ้า”…
การอธิษฐานคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด
สุขสันต์วันพ่อนะคะ วันนี้ เราจะมาเรียนรู้กันต่อถึง หนทางการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์ วันนี้ฉันขอหนุนใจคุณที่จะลุกขึ้นบากบั่นต่อไปกับการท้าทายที่อาจารย์เปาโลให้กับเราไว้ในพระคัมภีร์ “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์” (1 เธสะโลนิกา 5:17-18) การอธิษฐานคือ อาวุธที่มีพลังที่สุด ของคริสเตียน มีพลังที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเรื่องราวต่างๆ แม้กระทั่งมีอิทธิพลต่อพระทัยของพระเจ้า เมื่อพระเจ้าตัดสินใจจะทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์ อับราฮัมยืนวิงวอนเพื่อทั้งสองเมืองนี้และช่วยหลานชายของเขาคือโลต และครอบครัวของโลตได้สำเร็จ ใจของอับราฮัมเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงคนชอบธรรมที่จะต้องถูกทำลายไปพร้อมกับประชาชนที่ชั่วร้าย ดูในพระธรรม (ปฐมกาล 18:23-33) ฉันเชื่อว่าพระเจ้าทรงซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่เห็นลูกของพระองค์ยืนอธิษฐานเผื่อสองเมืองนี้ ทุกคำขอของอัมราฮัม พระเจ้าทรงยอมรับและรับฟังอย่างตั้งใจ คุณเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์นะคะ และการอธิษฐานของคุณก็มีน้ำหนักไม่ต่างจากคำอธิษฐานของอัมราฮัม “ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน…
ไม่มีอะไรที่สำคัญยิ่งไปกว่าความรัก
นี่คือพระคำจากพระเจ้าเพื่อคุณในวันนี้ ซึ่งพระองค์คือผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก… “พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล ตรัสว่า เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้น เราจึงนำเจ้ามาด้วยความรักมั่นคง” (เยเรมีย์ 31:3) ตั้งแต่เริ่มแรกสร้างโลก พระเจ้าไม่เคยหยุดที่จะสื่อสารถึงความรักของพระองค์กับมนุษย์เลย จนกระทั้งถึงจุดสูงสุดที่พระองค์ทรงกระทำบนกางเขน ความรักคือแก่นแท้ของความเป็นบุคคลของพระองค์ เป็นรากฐานของความคิดและพระคำของพระองค์ทั้งสิ้น พระคัมภีร์ทุกตอนออกมาจากข้อความที่พระองค์ทรงใช้เพื่อประกาศความรักของพระองค์ถึงคนของพระองค์ ทั้งชนชาติอิสราเอล และคุณในวันนี้ “แม้ข้าพเจ้าจะ…แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย” (1 โครินธ์ 13:2) รักพระเจ้าด้วยสุดใจของเรา สุดจิตของเรา สิ้นสุดกำลังความคิดของเรา และรักเพื่อนบ้านของเราเหมือนเรารักตัวเราเอง… นี่คือสิ่งที่จะพัฒนาเราขึ้น ในความเป็นจริงแล้ว การสำแดงความรักของเราจะเป็นตัวบ่งบอกถึงตัวตนของเรา เมื่อเรารับความรักจากพระเจ้ามาเรื่อยๆ…
จงให้ แล้วคุณจะได้รับด้วย…
คุณอยากเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์มั้ยคะ? บางทีคุณอาจจะเป็นอยู่แล้วก็ได้? ฉันอยากจะหนุนใจคุณวันนี้ด้วยพระคำจากพระเยซู… “จงให้เขา แล้วพวกท่านจะได้รับด้วยแบบยัดสั่นแน่นพูนล้นเต็มหน้าตักของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านตวงให้เขาเท่าไร ท่านก็จะได้รับการตวงกลับคืนไปเท่านั้นเช่นกัน” (ลูกา 6:38) ฉันเคยแอบหัวเราะกับตัวเองและคิดว่า มันเป็นตรรกะที่แปลกๆหน่อยนะ ตามที่พระองค์ทรงตรัส ดูเหมือนว่ายิ่งฉันให้มากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งได้รับมากขึ้นเท่านั้น! แปลกใช่มั้ย? โดยตรรกะของแผ่นดินของพระเจ้า การให้ไม่ได้มีความหมายเหมือนกันกับการสูญเสีย แต่เป็นการได้รับมากกว่า บางทีคุณอาจกำลังคิดอยู่ว่า ด้วยตรรกะนี้ การให้อาจจะไม่ใช่การกระทำที่ดีและไม่เห็นแก่ตัว แต่เป็นการกระทำที่ค่อนข้างจะคิดถึงประโยชน์ของตัวเองมากไปซะหน่อยที่จะให้เพื่อได้รับ ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราให้ด้วยใจที่ไม่ถูกต้อง พระเจ้าก็จะไม่สามารถอวยพรเราได้อย่างแน่นอน พระองค์จะทรงให้ตามจำนวนที่เราใช้ไป นอกจากจะเป็นการแสดงออกซึ่งความรักแล้ว การให้ยังเป็นการแสดงออกของความเชื่อฟังพระเจ้าอีกด้วย พระเจ้าทรงใช้ลูกๆของพระองค์ ทั้งหญิงและชายผู้ที่ถวายสิ่งตนเองมีด้วยความเต็มใจ…
อย่าปิดซ่อนไว้
สัปดาห์นี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกับคุณถึงกุญแจ 7 ประการ สำหรับการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์ที่พระเจ้าทรงเรียกคุณให้เป็น ผู้อ่านคนหนึ่งของ “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” ส่งข้อความมาถึงฉันเกี่ยวกับความสับสนของเขา เมื่อต้องพูดเรื่องความเชื่อของเขา เขาบอกว่า “ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถพูดถึงพระเยซูกับคนอื่นๆรอบตัวผมได้ ผมไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้อย่างไรเพราะกลัวจะทำให้คนอื่นหงุดหงิดหรือทำให้คนอื่นรู้สึกถูกตัดสิน แต่จริงๆผมอยากเป็นพยานนะ ผมเองก็กำลังอธิษฐานเผื่อสิ่งนี้ ผมควรทำยังไงดีครับ?” ฉันเข้าใจความสับสนนี้เป็นอย่างดี เพราะฉันเองก็มีประสบการณ์แบบนี้บ่อยมากๆ ฉันอยากเชิญชวนคุณที่จะยอมรับตำแหน่งของคุณในฐานะลูกของพระเจ้า ใครคือคนที่พระเยซูทรงพูดถึงเมื่อพระองค์ทรงประกาศว่า “ท่านทั้งหลายเป็นความสว่างของโลก…” (มัทธิว 5:14) พระองค์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ และคุณก็เป็นสาวกของพระองค์เช่นกัน ถ้าคุณได้ตัดสินใจติดตามพระองค์แล้ว คุณไม่สามารถเก็บมรดกนี้ไว้กับตัวคุณเองได้ เพราะคุณถูกเรียกให้แบ่งปันออกไปยังคนรอบข้างของคุณ พระเยซูทรงตรัสต่อไปอีกว่า “…นครซึ่งอยู่บนภูเขาจะถูกปิดบังไว้ไม่ได้ เมื่อจุดตะเกียงแล้วไม่มีผู้ใดเอาถังครอบไว้…
พระหัตถ์ของพระเจ้าใหญ่ยิ่งกว่ามือของเรา…
“อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะเสริมกำลังเจ้า เราจะช่วยเจ้า เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา” (อิสยาห์ 41:10) คุณรู้หรือไม่พระหัตถ์ของพระเจ้าทรงใหญ่ยิ่งกว่ามือของเรา? วันหนึ่ง ลูกชายของเราไปที่โบสถ์มีสมาชิกคนหนึ่งมาแจกขนมเด็กๆ และเธอก็เอาขนมมาให้ลูกชายของฉัน เธอบอกกับลูกชายฉันว่า “วันนี้ป้ามีขนมมาให้เด็กๆ หนูหยิบไปได้เลยนะ หยิบให้เต็มมือเลย” ลูกชายฉันทั้งดีใจและเขินนิดหน่อย เขาหันมาบอกกับฉันว่า “แม่หยิบให้หน่อยได้ไหมครับ” ฉันสงสัยเลยถามเขาว่าทำไมเขาไม่หยิบเอง เขาตอบว่า “มือแม่ใหญ่ แม่หยิบได้เยอะกว่ามือผม” จงรู้ไว้ว่า…มือของคุณมันเล็กมากๆ แต่พระหัตถ์ของพระเจ้านั้นใหญ่โตเหลือเกิน พระหัตถ์ของพระเจ้าทรงยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะ… ขอให้คุณมีความมั่นใจในพระหัตถ์อันทรงยิ่งใหญ่และพระหัตถ์อันทรงชัยของพระองค์ ยึดเอาการปกป้องและการปลดปล่อยจากฟ้าสวรรค์ของพระองค์ไว้ให้มั่นนะคะ ทั้งหมดนี้เป็นของคุณแล้วโดยความเชื่อ…
การช่วยเหลือของพระเจ้ามาถึงแล้ว…
“อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะเสริมกำลังเจ้า เราจะช่วยเจ้า เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา” (อิสยาห์ 41:10) ข้อพระคัมภีร์หนึ่งที่ฉันชอบมากอยู่ในพระธรรมสดุดี 121 กล่าวว่า “ข้าพเจ้าเงยหน้าดูภูเขา ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากไหน? ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระยาห์เวห์ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” (สดุดี 121:1-2) และนี่เป็นข้อพระคัมภีร์ที่ฉันใช้ตั้งชื่อลูกชายของฉัน เพราะพระเจ้าทรงเป็นความอุปถัมภ์ของเขาจริงๆ ทำไมต้องเงยหน้าดูภูเขาด้วย? เมื่อคนยิวจะไปที่เยรูซาเล็มเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลอง พวกเขาต้องท่องจำพระธรรมสดุดีและร้องเพลงสรรเสริญ ระหว่างการขึ้นไปที่เยรูซาเล็มและพระวิหาร ของพระเจ้า ความคาดหวังของพวกเขาก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด พวกเขารู้ว่ามีสิ่งพิเศษกำลังจะเกิดขึ้นระหว่างพวกเขากับองค์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขารู้ว่าความบาปของพวกเขาจะได้รับการอภัย คุณเองก็เหมือนกันนะคะ…ขอให้คุณคาดหวัง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพร้อมที่จะอวยพรคุณ…
เราจะเสริมกำลังเจ้า…
“อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า อย่าขยาด เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า เราจะเสริมกำลังเจ้า เราจะช่วยเจ้า เราจะชูเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา” (อิสยาห์ 41:10) คุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญากับคุณดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย? แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้น คือเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระเจ้าสัญญากับคุณทุกประการ? นั่นคือสิ่งที่โยเซฟประสบ สืบเนื่องจากความฝันที่พระเจ้าให้กับเขาว่า เขาจะถูกยกขึ้นเหนือพี่น้องของเขา และโยเซฟกลับใช้เวลาส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาอยู่ในฐานะทาส แล้วก็ติดคุก แต่ในสถานการณ์เหล่านั้นเองที่พระเจ้าทรงฝึกโยเซฟจนเสร็จ และเขากลายเป็นผู้บังคับบัญชารองลงมาจากฟาโรห์! คุกของคุณสามารถเป็นประตูที่พระเจ้าจะพาคุณไปถึงจุดหมายของคุณได้ ความอ่อนแอของคนหนึ่งคือโอกาสสำหรับพระเจ้าที่จะสำแดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ความอ่อนแอของเราคือเบ้าหลอมที่ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าจะถูกสำแดงออก และข้อจำกัดของเราหลายครั้งก็เป็นโอกาสสำหรับพระเจ้าที่จะทำให้ความยิ่งใหญ่ของพระองค์ขยายออก ใช่แล้วค่ะ ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าถูกสำแดงออกชัดขึ้นในความอ่อนแอของเรา ก็เหมือนกับตะเกียง ที่จะส่องสว่างมากยิ่งขึ้นในความมืด เมื่อเราอ่อนกำลัง พระเจ้าจะทรงทำให้เรามีกำลัง คำถามคือ…