The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!
คุณคือคำตอบของพระเจ้า
ทุกวันจะมีคนส่งคำพยานมาเล่าให้เราฟังว่า พระเจ้าทรงยกชูพวกเขาและฟื้นฟูพวกเขาอย่างไร มันเป็นของขวัญและสิทธิพิเศษมากๆเลยที่พระเจ้าทรงใช้คำหนุนใจประจำวันง่ายๆนี้ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่มีค่ามาก ขอพระเจ้าได้รับเกียรติ สิ่งหนึ่งที่เป็นจริงเสมอคือ พระเจ้ามักจะใช้ผู้คนให้เป็นพรต่อกันและกัน เพราะเราทั้งหลายคือพระกายของพระคริสต์ (ดูเพิ่มเติมใน 1 โครินธ์ 12:27) และฉันเชื่อว่า ในฐานะลูกของพระเจ้า เราเลือกที่จะสำแดงความรักของพระองค์ออกไปได้ ส่งคำหนุนใจสั้นๆไปให้เพื่อนของเรา หรือให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านของที่กำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่ได้… (ดูเพิ่มเติมใน มัทธิว 19:19) มีคำพยานของผู้อ่าน “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” ท่านหนึ่ง เธอบอกว่า “มีข้อความบอกว่า พระเจ้าจะใช้คุณในชีวิตของใครบางคน และแน่นอน ในวันถัดมา ฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดต่อกันเลย 2 ปี เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างบอกให้เธอโทรหาฉัน…
จะเป็นอย่างไรถ้าคุณเปิดเผยความรักของพระเจ้าต่อผู้อื่น?
วันนี้ ฉันอยากชวนคุณที่จะอธิษฐานตามคำอธิษฐานนี้ด้วยกันนะคะ “พระเจ้า ในความเงียบสงบของวันใหม่วันนี้ลูกเข้ามาทูลขอสันติสุข สติปัญญา และกำลังจากพระองค์ วันนี้ ลูกหวังว่าลูกจะมองโลกนี้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักขอที่ลูกจะมีความเข้าใจ ถ่อมใจ และเต็มไปด้วยสติปัญญาเพื่อที่จะมองดูลูกๆของพระองค์ด้วยมุมมองแบบเดียวกันกับที่พระองค์ทรงมองพวกเขาขอทรงปิดหูของลูกจากการกล่าวร้ายทั้งสิ้นปกป้องลิ้นของลูกจากการมุ่งร้ายขอเพียงความคิดที่เป็นพรเท่านั้นที่ครอบครองจิตวิญญาณของลูกอยู่ ขอให้ลูกเป็นคนที่จิตใจดี และเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดีเพื่อที่ทุกคนที่เข้าใกล้ลูกจะรับรู้ถึงการสถิตอยู่ของพระองค์ได้พระเจ้า ขอทรงสวมความงดงามของพระองค์เหนือชีวิตของลูกเพื่อที่ตลอดทั้งวันนี้ลูกจะได้สำแดงพระองค์ออกไป เอเมน” ฉันอธิษฐานที่วันนี้ คุณจะมีวันที่ยอดเยี่ยม ขอพระเจ้าทรงใช้ชีวิตของคุณเพื่อเปิดเผยความรักและความดีงามของพระองค์แก่ผู้อื่นนะคะ คุณคือการอัศจรรย์
จงเป็นแหล่งแห่งการหนุนน้ำใจ
“แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งชั่วร้ายที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย เราสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระบิดาด้วยลิ้นนั้น และเราก็แช่งด่ามนุษย์ผู้ที่พระเจ้าทรงสร้างตามพระฉายาของพระองค์ด้วยลิ้นนั้น คำสรรเสริญและคำแช่งด่าออกมาจากปากเดียวกัน พี่น้องของข้าพเจ้า อย่าให้เป็นอย่างนั้น บ่อน้ำพุจะมีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มพุ่งออกมาจากช่องเดียวกันได้หรือ?” ยากอบ 3:8-11 คุณถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้า สร้างขึ้นเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์ เพื่อให้ชีวิตของคุณสร้างความแตกต่างให้กับโลก คำถามคือจะทำได้อย่างไร? ก็โดยการที่คุณมีคำพูดเหมือนพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ในสถานการณ์ของครอบครัวของคุณ หรือทางใดก็ตามที่ผู้คนสามารถเห็นคุณได้ คุณถูกสร้างขึ้นมาตามพระฉายาของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ชีวิตของคุณคือคำพยานสำหรับพระคุณและความรักของพระเจ้า วันนี้ ฉันอยากท้าทายคุณ ที่จะมีคำพูดที่เหมือนพระเจ้า ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในการว่าร้ายหรือพูดสิ่งเลวร้ายใดๆ ขอที่คำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆจะไม่มีในคุณ ขอให้ประตูใจของคุณปิดไว้จากสิ่งชั่วร้ายเหล่านั้น การกล่าวสิ่งชั่วร้ายคือ “บุคลิกที่ไม่พึงปรารถนา” ในตัวคุณเลย คุณถูกแยกไว้…เพื่อพระเจ้า…
คุณเกิดมาเพื่อสำแดงความรักของพระองค์ออกไป
แต่ละก้าว แต่ละวันที่ผ่านไป คุณก็กำลังได้เข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้นและเติบโตขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากพระเจ้าทรงอนุญาตให้การเติบโตขึ้นนี้เป็นพระพรแก่ชีวิตของผู้คน? “และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์เจ้านายตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป? และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา?” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”” (อิสยาห์ 6:8) พระเจ้าทรงกำลังสร้างและเปลี่ยนแปลงคุณทีละนิดทีละนิด พระองค์ทรงให้พระคำและพระสัญญาของพระองค์กับคุณ คุณได้รับการทรงเรียกให้รับใช้พระองค์ด้วยการอุทิศชีวิตของคุณให้พระองค์ เหมือนเป็นช่องทางแห่งพระพรไปถึงชีวิตของผู้คน พระองค์กำลังเทพระคุณ พระปัญญา และกำลังของพระองค์มาในชีวิตของคุณ เพื่อสร้างคุณให้เป็นทูตของความรักและพระพรในทุกที่ที่คุณอยู่ คุณถูกสวมทับด้วยพระวิญญาณของพระองค์และถูกเติมเต็มด้วยชีวิตของพระองค์เพื่อจะมีชีวิตที่แตกต่างออกไป และเพื่อสร้างความแตกต่าง รวมถึงการส่งต่อความรักของพระเจ้าออกไปถึงผู้คนรอบตัวคุณ จงจำไว้ว่า พระเยซูทรงเป็นความสว่างของโลก และคุณคือหนึ่งในคนที่จะฉายแสงความสว่างของพระองค์ออกไป ขอให้บทเพลงนี้เป็นเหมือนคำอธิษฐานของเรานะคะ เพลง“จะเป็นดั่งแสง” ฉันขอชวนให้คุณก้าวต่อไป…เพื่อยังคงสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของผู้อื่น อธิษฐานด้วยกันนะคะ……
ชีวิตของคุณมีค่า
“โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ถูกซ่อนไว้จากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก พระเนตรของพระองค์เห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปทรง วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย” (สดุดี 139:15-16) อะไรคือเกณฑ์ที่ควรใช้ในการประเมินชีวิตของคนคนหนึ่ง? ขึ้นอยู่กับสถานะของแต่ละคนหรือเปล่า? โลกได้ตั้งเกณฑ์ในการชี้วัดของมันเอง ไม่ว่าจะขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ชนชั้นทางสังคม หรือความสำเร็จ เป็นต้น พระเจ้าทรงเป็นผู้เขียนชีวิตของคุณ พระเจ้าทรงเลือกที่จะสร้างคุณและทรงรักคุณ ฉะนั้นคุณไม่ใช่ความบังเอิญ ชีวิตของคุณมีค่าเพราะเป็นการเลือกของพระเจ้า ถ้าเจ้าของจักรวาลนี้ประกาศว่า “คุณมีค่า” ใครจะแย้งพระองค์ได้? อย่าไปฟังเสียงคำโกหกที่พยายามจะบอกกับคุณว่า โลกนี้จะดีขึ้นถ้าไม่มีคุณ…นั่นไม่ใช่ความจริงเลย คุณเป็นพรสำหรับครอบครัวของคุณ เพื่อนของคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณ…
ขอให้คุณได้เป็นการอัศจรรย์ของใครบางคน
มีวีดีโอตัวหนึ่งในช่องยูทูป เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอไปที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อจะซื้อสร้อยให้พี่สาวของเธอ แม่ของพวกเธอเพิ่งจะเสียไป และเด็กคนนี้อยากจะทำให้พี่สาวของเธอมีความสุขและกลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่เธอมีเงินอยู่ไม่มากนัก ดังนั้นเจ้าของร้านจึงตัดสินใจให้สร้อยเส้นนั้นกับเธอเลย ฉันอยากแบ่งปันกับคุณว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสัมผัสใจฉัน… จงมีความเชื่อง่ายๆเหมือนเด็กๆ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะสัมผัสพระทัยของพระบิดาได้แล้ว ฉันเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณด้วยเต็มพระทัย ฉันอธิษฐานว่า ในสัปดาห์นี้คุณจะเป็นการอัศจรรย์ของใครบางคนนะคะ คุณคือการอัศจรรย์
คุณแข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิด
เช้าวันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกับคุณด้วยถ้อยคำแห่งการหนุนน้ำใจนี้ที่ว่า… “…ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะพวกท่านมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในพวกท่าน และท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว” (1 ยอห์น 2:14) คุณแข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิดนะคะ เพราะอะไรฉันถึงบอกว่าคุณแข็งแกร่ง? เพราะคุณมีความสามารถพิเศษ มีสติปัญญาที่ไม่ธรรมดา และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงหรือเปล่า? ไม่ใช่เลย (แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะบอกว่าคุณไม่มีความสามารถ ไม่ฉลาด หรือไม่แข็งแรงนะคะ) ยอห์นบอกว่า ตราบใดที่พระคำของพระเจ้ายังดำรงอยู่ในคุณ คุณก็แข็งแกร่งเท่านั้น คุณจะยอมให้พระคำที่มีชีวิตนี้ทำงานในคุณทุกวันได้อย่างไร? นี่เป็นคำแนะนำที่อาจช่วยคุณได้… ยิ่งคุณอยู่กับพระคำของพระเจ้ามากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รับการเตรียมชีวิตให้สามารถเผชิญกับวันที่ยากๆ การต่อสู้ใหม่ๆ หรือการทดลองได้มากเท่านั้น เมื่อมียักษ์เข้ามาคุกคามคุณ เหมือนที่ดาวิดเจอ คุณก็จะสามารถขับไล่มันไปและเอาชนะมันได้โดยพระนามของพระเจ้าจอมโยธา …
กิจวัตรของคุณคือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของคุณ
วันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกับคุณด้วยคำคมนี้ของ โรบิน ชาร์มา กล่าวว่า “ชีวิตที่ไม่ธรรมดาเป็นชีวิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันในด้านที่สำคัญที่สุด” ฉันเชื่อว่านี่เป็นความจริง เมื่อเรานึกถึงนักกีฬา เรารู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแชมป์โอลิมปิกด้วยเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แต่มันคือการมีวินัยในส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาในการเป็นแชมป์โลก (ทั้งเรื่องการเล่นกีฬา อาหารการกิน ด้านจิตใจ) ผู้อ่านท่านหนึ่งเขียนสิ่งนี้มาถึงฉัน เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ค่อยได้อ่านพระคัมภีร์เหมือนที่ฉันเคยเป็นมาก่อน และชีวิตการอธิษฐานของฉันก็ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจของฉันเท่าไหร่นัก บางครั้งฉันเริ่มต้นวันของฉันด้วยการตั้งใจจะอธิษฐานแต่ในที่สุดก็มีอย่างอื่นเข้ามาให้ฉันต้องทำ พอจบวันนั้น ฉันก็รู้สึกท้อแท้กับวินัยในการดำเนินชีวิตของฉันกับพระเจ้า” หากคุณรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ นี่อาจจะเป็นคำแนะนำเล็กๆน้อยๆให้กับคุณได้ คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณเพื่อจะเห็นผลที่เกิดขึ้น เพียงแต่เริ่มจากก้าวเล็กๆในแต่ละวันก็พอแล้ว วันนี้เรามาตั้งเป้าไปด้วยกันนะคะ ด้วยการเริ่มกับอะไรเล็กๆ เช่น การอธิษฐาน 5 นาทีทุกวัน…
การเชื่อฟัง
วันนี้เราจะมาใคร่ครวญด้วยกันถึงหลักการของพระคัมภีร์ ที่จะช่วยเราให้เรียนรู้เรื่องการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์คือ…การเชื่อฟัง หากเมื่อการเชื่อฟังนั้นเป็นสิ่งที่กระทำต่อพระเจ้า มันจะช่วยเราให้เติบโตขึ้น ผู้อ่านของ “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” ท่านหนึ่งบอกเล่าเรื่องนี้กับฉันว่า “ฉันทำงานอยู่ในส่วนที่เป็นหัวใจของโครงการในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพราะเหตุนี้ ทำให้ทุกวันที่ทำงานของฉัน ฉันจะเธอกับผู้หญิง เด็ก และผู้ชายที่เจ็บป่วย “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” เป็นเหมือนออกซิเจนและน้ำที่บรรเทาความกระหายสำหรับฉันเลย เป็นเหมือนน้ำพุเพื่อรด “สวน” ในใจของฉัน ในงานที่เกี่ยวกับการให้กำลังใจของฉัน ฉันได้แบ่งปันพระคำกับผู้คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉัน แม้ว่าพวกเขาจะมาถึงฉันทั้งน้ำตา แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป พวกเขากลับพบรอยยิ้มได้อีกครั้ง พบความสุขของการมีชีวิตอยู่แม้จะเจ็บป่วย ผ่านการที่พวกเขาบอกว่าพวกเขาตกลงที่จะแบกกางเขนไปกับพระเยซู โดยเชื่อว่าพระองค์คือผู้เดียวที่สามารถให้สันติสุขแก่พวกเขาได้ พวกเขาต่างเห็นด้วยที่จะไว้วางใจในพระเยซู ผู้ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่และทรงฤทธานุภาพ” ฉันยินดีกับผู้อ่านท่านนี้ด้วยกับความใจดีของเธอ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้…