Miracles

Home | Miracles | Page 32

The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!

ชีวิตของคุณมีค่า

“โครงร่างของข้าพระองค์ไม่ได้ถูกซ่อนไว้จากพระองค์ เมื่อข้าพระองค์ถูกสร้างอยู่ในที่ลับลี้ ประดิษฐ์ขึ้นมา ณ ภายในที่ลึกแห่งโลก พระเนตรของพระองค์เห็นข้าพระองค์ตั้งแต่ยังไม่เป็นรูปทรง วันทั้งสิ้นที่กำหนดให้ข้าพระองค์นั้น ถูกบันทึกไว้ในหนังสือของพระองค์ ตั้งแต่ยังไม่มีวันนั้นเลย” ‭‭(สดุดี‬ ‭139‬:‭15‬-‭16‬) อะไรคือเกณฑ์ที่ควรใช้ในการประเมินชีวิตของคนคนหนึ่ง? ขึ้นอยู่กับสถานะของแต่ละคนหรือเปล่า? โลกได้ตั้งเกณฑ์ในการชี้วัดของมันเอง ไม่ว่าจะขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา ชนชั้นทางสังคม หรือความสำเร็จ เป็นต้น  พระเจ้าทรงเป็นผู้เขียนชีวิตของคุณ พระเจ้าทรงเลือกที่จะสร้างคุณและทรงรักคุณ ฉะนั้นคุณไม่ใช่ความบังเอิญ ชีวิตของคุณมีค่าเพราะเป็นการเลือกของพระเจ้า  ถ้าเจ้าของจักรวาลนี้ประกาศว่า “คุณมีค่า” ใครจะแย้งพระองค์ได้? อย่าไปฟังเสียงคำโกหกที่พยายามจะบอกกับคุณว่า โลกนี้จะดีขึ้นถ้าไม่มีคุณ…นั่นไม่ใช่ความจริงเลย คุณเป็นพรสำหรับครอบครัวของคุณ เพื่อนของคุณ เพื่อนร่วมงานของคุณ…

ขอให้คุณได้เป็นการอัศจรรย์ของใครบางคน

มีวีดีโอตัวหนึ่งในช่องยูทูป เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเธอไปที่ร้านขายเครื่องประดับเพื่อจะซื้อสร้อยให้พี่สาวของเธอ  แม่ของพวกเธอเพิ่งจะเสียไป และเด็กคนนี้อยากจะทำให้พี่สาวของเธอมีความสุขและกลับมายิ้มได้อีกครั้ง แต่เธอมีเงินอยู่ไม่มากนัก ดังนั้นเจ้าของร้านจึงตัดสินใจให้สร้อยเส้นนั้นกับเธอเลย ฉันอยากแบ่งปันกับคุณว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสัมผัสใจฉัน… จงมีความเชื่อง่ายๆเหมือนเด็กๆ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะสัมผัสพระทัยของพระบิดาได้แล้ว ฉันเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณด้วยเต็มพระทัย  ฉันอธิษฐานว่า ในสัปดาห์นี้คุณจะเป็นการอัศจรรย์ของใครบางคนนะคะ คุณคือการอัศจรรย์

คุณแข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิด

เช้าวันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกับคุณด้วยถ้อยคำแห่งการหนุนน้ำใจนี้ที่ว่า… “…ข้าพเจ้าเขียนจดหมายถึงท่าน เพราะพวกท่านมีกำลังมาก และพระวจนะของพระเจ้าดำรงอยู่ในพวกท่าน และท่านชนะมารร้ายนั้นแล้ว” (‭‭1 ยอห์น‬ ‭2‬:‭14‬) คุณแข็งแกร่งมากกว่าที่คุณคิดนะคะ เพราะอะไรฉันถึงบอกว่าคุณแข็งแกร่ง? เพราะคุณมีความสามารถพิเศษ มีสติปัญญาที่ไม่ธรรมดา และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงหรือเปล่า? ไม่ใช่เลย (แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะบอกว่าคุณไม่มีความสามารถ ไม่ฉลาด หรือไม่แข็งแรงนะคะ) ยอห์นบอกว่า ตราบใดที่พระคำของพระเจ้ายังดำรงอยู่ในคุณ คุณก็แข็งแกร่งเท่านั้น  คุณจะยอมให้พระคำที่มีชีวิตนี้ทำงานในคุณทุกวันได้อย่างไร?  นี่เป็นคำแนะนำที่อาจช่วยคุณได้… ยิ่งคุณอยู่กับพระคำของพระเจ้ามากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รับการเตรียมชีวิตให้สามารถเผชิญกับวันที่ยากๆ การต่อสู้ใหม่ๆ หรือการทดลองได้มากเท่านั้น เมื่อมียักษ์เข้ามาคุกคามคุณ เหมือนที่ดาวิดเจอ คุณก็จะสามารถขับไล่มันไปและเอาชนะมันได้โดยพระนามของพระเจ้าจอมโยธา …

กิจวัตรของคุณคือสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของคุณ

วันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกับคุณด้วยคำคมนี้ของ โรบิน ชาร์มา กล่าวว่า “ชีวิตที่ไม่ธรรมดาเป็นชีวิตที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละวันในด้านที่สำคัญที่สุด”  ฉันเชื่อว่านี่เป็นความจริง เมื่อเรานึกถึงนักกีฬา เรารู้ดีว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแชมป์โอลิมปิกด้วยเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แต่มันคือการมีวินัยในส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาในการเป็นแชมป์โลก (ทั้งเรื่องการเล่นกีฬา อาหารการกิน ด้านจิตใจ)  ผู้อ่านท่านหนึ่งเขียนสิ่งนี้มาถึงฉัน เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ค่อยได้อ่านพระคัมภีร์เหมือนที่ฉันเคยเป็นมาก่อน  และชีวิตการอธิษฐานของฉันก็ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจของฉันเท่าไหร่นัก บางครั้งฉันเริ่มต้นวันของฉันด้วยการตั้งใจจะอธิษฐานแต่ในที่สุดก็มีอย่างอื่นเข้ามาให้ฉันต้องทำ พอจบวันนั้น ฉันก็รู้สึกท้อแท้กับวินัยในการดำเนินชีวิตของฉันกับพระเจ้า” หากคุณรู้สึกว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันนี้ นี่อาจจะเป็นคำแนะนำเล็กๆน้อยๆให้กับคุณได้ คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณเพื่อจะเห็นผลที่เกิดขึ้น เพียงแต่เริ่มจากก้าวเล็กๆในแต่ละวันก็พอแล้ว วันนี้เรามาตั้งเป้าไปด้วยกันนะคะ ด้วยการเริ่มกับอะไรเล็กๆ เช่น การอธิษฐาน 5 นาทีทุกวัน…

การเชื่อฟัง

วันนี้เราจะมาใคร่ครวญด้วยกันถึงหลักการของพระคัมภีร์ ที่จะช่วยเราให้เรียนรู้เรื่องการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์คือ…การเชื่อฟัง หากเมื่อการเชื่อฟังนั้นเป็นสิ่งที่กระทำต่อพระเจ้า มันจะช่วยเราให้เติบโตขึ้น ผู้อ่านของ “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” ท่านหนึ่งบอกเล่าเรื่องนี้กับฉันว่า “ฉันทำงานอยู่ในส่วนที่เป็นหัวใจของโครงการในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง เพราะเหตุนี้ ทำให้ทุกวันที่ทำงานของฉัน ฉันจะเธอกับผู้หญิง เด็ก และผู้ชายที่เจ็บป่วย “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” เป็นเหมือนออกซิเจนและน้ำที่บรรเทาความกระหายสำหรับฉันเลย เป็นเหมือนน้ำพุเพื่อรด “สวน” ในใจของฉัน ในงานที่เกี่ยวกับการให้กำลังใจของฉัน ฉันได้แบ่งปันพระคำกับผู้คนที่อยู่ภายใต้การดูแลของฉัน แม้ว่าพวกเขาจะมาถึงฉันทั้งน้ำตา แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะจากไป พวกเขากลับพบรอยยิ้มได้อีกครั้ง พบความสุขของการมีชีวิตอยู่แม้จะเจ็บป่วย ผ่านการที่พวกเขาบอกว่าพวกเขาตกลงที่จะแบกกางเขนไปกับพระเยซู โดยเชื่อว่าพระองค์คือผู้เดียวที่สามารถให้สันติสุขแก่พวกเขาได้ พวกเขาต่างเห็นด้วยที่จะไว้วางใจในพระเยซู ผู้ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่และทรงฤทธานุภาพ” ฉันยินดีกับผู้อ่านท่านนี้ด้วยกับความใจดีของเธอ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้…

ฟังเสียงพระเจ้า

หูของคุณกำลังเปิดออกอยู่หรือเปล่าในเช้านี้? คุณได้ยินเสียงอันอ่อนสุภาพของพระเจ้าที่กำลังตรัสกับใจของคุณอยู่มั้ย? การเรียนรู้ที่จะฟังพระเจ้า ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์ด้วย  “เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อจะกราบทูลพระองค์ ท่านได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับท่านมาจากพระที่นั่งกรุณา ซึ่งอยู่บนหีบแห่งสักขีพยานระหว่างเครูบทั้งสอง และพระองค์ทรงสนทนากับท่าน” (‭‭กันดารวิถี‬ ‭7‬:‭89) พระเจ้าทรงตรัสค่อนข้างบ่อย และพระองค์ทรงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะตรัสกับคุณ ฉันชอบที่จะหยุดบ้างบางครั้งเวลาอธิษฐานเพื่อเป็นการง่ายที่จะเงียบและถามพระองค์ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงคิดเห็นต่อสถานการณ์ต่างๆในชีวิตของฉัน แล้วฉันก็จะเขียนทุกสิ่งที่เข้ามาในใจของฉัน โดยไม่หยุดคิดเลย และหลังจากนั้น ฉันก็ใคร่ครวญได้ว่า ทุกสิ่งที่สอดคล้องกับพระคำของพระเจ้าจะมาจากพระองค์เท่านั้น ที่เหลือนั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากตัวฉันเอง ระหว่างช่วงเวลาของการฟังนี้ ฉันขอให้พระเจ้าทรงย้ำเตือนกับฉันว่าฉันเป็นใครและพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของชีวิตฉัน เรามักจะคิดว่าพระเจ้าตรัสกับคนอื่นแต่ไม่ใช่ตรัสกับเราโดยเฉพาะ และเราก็ยังคงรอคอยที่จะฟังว่าพระองค์จะพูดอะไรกับเรา นั่นเพราะเราเพียงแค่ไม่รู้ว่าจะเริ่มฟังเสียงของพระองค์ได้อย่างไร “เพราะพระเจ้าตรัสวิธีหนึ่ง เออ สองวิธี แต่มนุษย์ไม่รับรู้” (‭‭โยบ‬…

จงบากบั่น

คุณรู้สึกว่ากำลังพบทางตันในบางเรื่องในชีวิตของคุณอยู่หรือเปล่า? ฉันอยากหนุนใจคุณในวันนี้ด้วยขอพระคัมภีร์ตอนหนึ่งที่อาจารย์เปาโลเขียนไว้ในพระธรรมโรม “ยิ่งกว่านั้น เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เป็นเช่นนั้นทำให้มีความหวัง” (‭‭โรม‬ ‭5‬:‭3‬-‭4) เป็นเรื่องยากใช่ไหมคะ ที่จะยินดีในความยากลำบากและอวดอ้างสิ่งนั้นอย่างภาคภูมิใจได้ เมื่อเราเผชิญกับความล้มเหลวในการทดสอบครั้งสำคัญ หรือความเจ็บป่วยกำลังคุกคามชีวิตของเรา เราคงอยากจะบอกกับเปาโลมากเลยว่า ในสถานการณ์แบบนั้น เรายังอยู่ห่างไกลจากความรู้สึกภาคภูมิใจไปเยอะมาก  ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณเลือกที่จะบากบั่นต่อไปท่ามกลางความยากลำบาก (ทั้งในเรื่องการอธิษฐาน ความรักของคุณ การให้อภัย การทรงเรียกของคุณ ความเชื่อของคุณ) เป็นพระบิดาของคุณและทูตสวรรค์ของพระองค์ที่กำลังภาคภูมิใจในคุณ และเอาใจช่วยคุณอยู่ หลังจากการบากบั่นด้วยความเชื่อฟัง และคุณนำชัยชนะกลับมาได้ พระเจ้าก็ยังคงพูดต่อไปว่า “เราภูมิใจในเจ้า”…

การอธิษฐานคืออาวุธที่ทรงพลังที่สุด

สุขสันต์วันพ่อนะคะ  วันนี้ เราจะมาเรียนรู้กันต่อถึง หนทางการเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์ วันนี้ฉันขอหนุนใจคุณที่จะลุกขึ้นบากบั่นต่อไปกับการท้าทายที่อาจารย์เปาโลให้กับเราไว้ในพระคัมภีร์ “จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับพวกท่านในพระเยซูคริสต์” (‭‭1 เธสะโลนิกา‬ ‭5‬:‭17‬-‭18‬) การอธิษฐานคือ อาวุธที่มีพลังที่สุด ของคริสเตียน มีพลังที่จะเปลี่ยนเส้นทางของเรื่องราวต่างๆ แม้กระทั่งมีอิทธิพลต่อพระทัยของพระเจ้า  เมื่อพระเจ้าตัดสินใจจะทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์ อับราฮัมยืนวิงวอนเพื่อทั้งสองเมืองนี้และช่วยหลานชายของเขาคือโลต และครอบครัวของโลตได้สำเร็จ ใจของอับราฮัมเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อนึกถึงคนชอบธรรมที่จะต้องถูกทำลายไปพร้อมกับประชาชนที่ชั่วร้าย ดูในพระธรรม (ปฐมกาล 18:23-33)  ฉันเชื่อว่าพระเจ้าทรงซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่เห็นลูกของพระองค์ยืนอธิษฐานเผื่อสองเมืองนี้ ทุกคำขอของอัมราฮัม พระเจ้าทรงยอมรับและรับฟังอย่างตั้งใจ  คุณเป็นทูตของแผ่นดินสวรรค์นะคะ และการอธิษฐานของคุณก็มีน้ำหนักไม่ต่างจากคำอธิษฐานของอัมราฮัม  “ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน…

ไม่มีอะไรที่สำคัญยิ่งไปกว่าความรัก

นี่คือพระคำจากพระเจ้าเพื่อคุณในวันนี้ ซึ่งพระองค์คือผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก… “พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่เขาจากที่ไกล ตรัสว่า เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์ เพราะฉะนั้น เราจึงนำเจ้ามาด้วยความรักมั่นคง” (‭‭เยเรมีย์‬ ‭31‬:‭3)‬‬ ตั้งแต่เริ่มแรกสร้างโลก พระเจ้าไม่เคยหยุดที่จะสื่อสารถึงความรักของพระองค์กับมนุษย์เลย จนกระทั้งถึงจุดสูงสุดที่พระองค์ทรงกระทำบนกางเขน  ความรักคือแก่นแท้ของความเป็นบุคคลของพระองค์ เป็นรากฐานของความคิดและพระคำของพระองค์ทั้งสิ้น พระคัมภีร์ทุกตอนออกมาจากข้อความที่พระองค์ทรงใช้เพื่อประกาศความรักของพระองค์ถึงคนของพระองค์ ทั้งชนชาติอิสราเอล และคุณในวันนี้ “แม้ข้าพเจ้าจะ…แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย” (‭‭1 โครินธ์‬ ‭13‬:‭2‬) รักพระเจ้าด้วยสุดใจของเรา  สุดจิตของเรา สิ้นสุดกำลังความคิดของเรา และรักเพื่อนบ้านของเราเหมือนเรารักตัวเราเอง… นี่คือสิ่งที่จะพัฒนาเราขึ้น ในความเป็นจริงแล้ว การสำแดงความรักของเราจะเป็นตัวบ่งบอกถึงตัวตนของเรา  เมื่อเรารับความรักจากพระเจ้ามาเรื่อยๆ…