Miracles

Home | Miracles | Page 18

The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!

พระเจ้าทรงปรารถนาจะใช้บาดแผลของคุณ

อาจารย์เปาโลเสนอโอกาสให้เรา ได้มองความทุกข์และแผลของเรา ผ่านมุมมองใหม่ที่แตกต่างออกไป “ข้าพเจ้าเห็นว่าความทุกข์ลำบากแห่งสมัยปัจจุบัน ไม่ควรจะเอาไปเปรียบกับศักดิ์ศรีซึ่งจะเผยให้แก่เราในอนาคต” (โรม 8:18) พระเจ้าทรงย้ำเตือนคุณอยู่ตรงนี้ว่า ศักดิ์ศรีอันล้ำเลิศที่รอคอยคุณอยู่ในสวรรค์นั้น ไม่มีอะไรเปรียบได้เลย มันจะลบเลือนความทรงจำแห่งความทุกข์ของคุณไปหมด ศักดิ์ศรีนี้วิเศษมาก และมันถูกสงวนไว้สำหรับ “ผู้ที่เอาชนะ” ดังที่อัครทูตยอห์นอธิบายไว้ในวิวรณ์ ทุกอย่างยังไม่จบ และพระเจ้ายังทรงปรารถนาจะใช้คุณเป็นเครื่องมือ… แห่งพระพรอันทรงพลังอีกด้วย คุณจะเห็นว่า ข้อความที่ให้ชีวิตมากที่สุด มักจะพบได้ในความทุกข์ที่สาหัสที่สุด ฉันเชื่อว่า พระเจ้าทรงสามารถใช้บาดแผลในอดีต และปัจจุบันของคุณ เพื่อรักษาผู้คนรอบข้างคุณในวันนี้ได้ ขอให้คุณวางใจในพระเจ้าเป็นอันดับแรก พระองค์ทรงรู้ว่าพระองค์กำลังทำอะไรอยู่ คุณอาจจะมองเห็นเพียงความทุกข์ของช่วงเวลานี้ แต่พระองค์ทรงถือภาพรวมทั้งชีวิตของคุณไว้ในมือของพระองค์ สิ่งที่ทำให้คุณทรมานเมื่อวานนี้…

การปลดปล่อยของคุณใกล้มาแล้ว

วันนี้และวันพรุ่งนี้ ฉันขอเชิญคุณไปยังสถานที่… ที่เราอาจจะไม่ค่อยอยากไป คือแดนดินแห่งความทุกข์ของเรา บริเวณบาดแผลของเรา ชีวิตไม่ได้ดำเนินไปตามแผนเสมอไป ไม่ว่าจะเป็น บทสนทนาทางโทรศัพท์ ข่าวร้าย การเลิกรา หรือแม้แต่อุบัติเหตุร้ายแรง ทุกอย่างในชีวิตสามารถพลิกพลันได้เสมอ ความทุกข์และความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่ความสุข และความสงบสุขของเราได้เสมอ เคยมีบางครั้งไหม ที่คุณเคยถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองเหมือนกับฉัน? เมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้ว พระเยซูเองก็ทรงรู้สึกถึงการถูกทอดทิ้ง และความเจ็บปวดรวดร้าวในการถูกตรึงบนกางเขน คุณจำคำพูดของพระองค์ได้ไหม? “‘…พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย?’” (ดู พระคัมภีร์ มัทธิว 27:46) เมื่อความทุกข์และความสับสนของเราเกิดขึ้นอย่างรุนแรง…

เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน

เคยมีการเล่ากันว่า ลูกๆของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ได้เล่นใต้โต๊ะทำงานของเขาในห้องที่ทำเนียบขาว ขณะที่เขากำลังจัดการกิจการของรัฐอยู่… ในฐานะลูกของพระเจ้า คุณก็มีสิทธิพิเศษแบบนี้เช่นเดียวกัน คุณสามารถเข้าถึงพระบิดาได้อย่างอิสระ เพราะคุณเป็นลูกที่รักของพระองค์ ดังที่ในธรรม 1 ยอห์น 3:1 กล่าวไว้ว่า… “ลองคิดดู พระบิดาได้ประทานความรักแก่เราเพียงไรที่เราได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระเจ้า และเราก็เป็นอย่างนั้น…” พระเจ้าทรงชื่นชมในมิตรภาพของลูกๆของพระองค์มาก จนพระองค์ไม่เคยหยุดที่จะเชื้อเชิญพวกเขา ให้ใกล้ชิดพระองค์ แม้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ราชาแห่งสวรรค์และโลก และผู้สร้างจักรวาล แต่พระองค์ก็มีความสุข… พระองค์ทรงเป็นพระบิดาผู้แสนอ่อนโยน ผู้ประทานความอ่อนโยน และความเมตตาของพระองค์แก่คุณ และพระองค์ไม่เคยยุ่งเกินไปที่จะตอบคุณ…

ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณจริงๆ ใช่ไหม?  🤔

ลองจินตนาการว่า คุณได้รับเชิญไปงานแต่งงาน งานเลี้ยงฉลองเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่รื่นเริง แต่เมื่อไวน์หมด ในที่สุด ขวดไวน์อื่นๆ ก็ถูกนำมาให้แขกผู้มางาน และแล้ว…เซอร์ไพรส์ ไวน์ขวดนั้นดีกว่าขวดที่เปิดตอนเริ่มงานเลี้ยงซะอีก ซึ่งคุณสามารถสังเกตเห็น… คุณภาพอันยอดเยี่ยมของเครื่องดื่มชนิดนี้ได้ทันที แต่เมื่อถึงเวลานี้ของงานเลี้ยง ทุกคนน่าจะอิ่มใจไปกับไวน์ที่เสิร์ฟไปก่อนหน้าเสียแล้ว เรื่องนี้ทำให้คุณนึกถึงอะไร? คงจะเป็นงานแต่งงานที่คานาแน่นอน (คุณสามารถอ่านเรื่องราวนี้ได้ในพระคัมภีร์ ยอห์น 2:1-11) เมื่อพระเจ้าทรงประสงค์จะประทานพรแก่ลูกๆ ของพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงทำสิ่งต่างๆ อย่างไม่เต็มใจ พระองค์ทรงไม่จำกัดในเรื่องพระกรุณาของพระองค์ ดังที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ “…พระองค์มิได้ทรงหวงสิ่งดีอันใดไว้ จากบรรดาผู้ที่ดำเนินในความซื่อสัตย์” (สดุดี 84:11)  คุณเห็นไหม ถ้าคุณเดินในความซื่อตรง…

ชื่นชมยินดีในการเดินกับพระเจ้าในทุกวันของคุณ

วันนี้ เราจะมาคุยกันต่อในเรื่องสวรรค์ อย่างที่เราได้คุยกันไปเมื่อวานนี้ อาดัมและเอวา มีประสบการณ์แห่งความสุขอย่างแท้จริงในสวนเอเดน ซึ่งพวกเขาเดินเล่นทุกวัน พวกเขาได้สัมผัสกับการมีชุมชนที่สมบูรณ์แบบกับพระเจ้า และมีความสุขที่ได้อยู่กับพระองค์ในยามเย็น (ดูเพิ่มเติมในพระธรรมปฐมกาล 3:8)  ฉันคิดว่าพวกเขาคงเล่าเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวันให้พระองค์ฟัง เหมือนเพื่อนสนิทที่คุยกัน เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกทำลาย พระเจ้าทรงทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะคืนดีกับพวกเขา และกับมนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงสละแม้กระทั่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อว่า… วันนี้ บางที… ฉันอยากจะหนุนใจคุณ พระเจ้าทรงประทานกำลังแก่คุณให้เดินกับพระองค์ เพลิดเพลินไปกับทุกชั่วโมง ทุกวันในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงสถิตอยู่กับคุณบนโลกใบนี้  ผ่านพระวิญญาณของพระองค์ และสักวันหนึ่งคุณจะได้เดินเคียงคู่พระองค์จริงๆ ในสวรรค์อย่างสวยงาม พระคัมภีร์ยืนยันเรื่องนี้ในเฉลยธรรมบัญญัติ 20:4…

คุณมีสิทธิ์ในมรดกของพระองค์อยู่แล้ว

คุณเคยดูหนังเกี่ยวกับอัศวินผู้กล้าหาญที่ต่อสู้เพื่อกษัตริย์ และอาณาจักรของเขาหรือไม่? ทุกวันนี้ ดีที่ว่ายุคสมัยของอัศวินได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่คุณรู้หรือไม่… พระธรรมโรม 8:17 ได้ยืนยันความจริงนี้ไว้ว่า… “และถ้าเราเป็นลูกแล้ว เราก็เป็นทายาท คือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์…”  คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า คุณเป็นทายาทของพระองค์จริงหรือเปล่า? คุณคิดว่ามรดกที่คุณได้รับอยู่ในขณะนี้ เป็นเพียงความกังวล ปัญหา และการทดลองต่างๆหรือเปล่า? ฉันพอเข้าใจนะคะ เพราะในบางครั้ง ฉันเองก็เคยเป็นเช่นนั้น แต่โปรดจำไว้ว่า ก่อนที่อาดัมและเอวาจะกระทำบาป พวกเขาอาศัยอยู่ในสวนเอเดน มีความสุขและสื่อสารกับพระเจ้าได้ พวกเขามีสิทธิ์ปกครองเหนือสรรพสิ่งต่างๆ และได้ชื่นชมยินดีกับสิทธิพิเศษต่างๆ ของพระผู้สร้าง แต่น่าเสียดายที่เมื่อพวกเขาทำบาป พวกเขาก็สูญเสียสิทธิพิเศษทั้งหมดไป…

คิดเรื่องสวรรค์…

เรามีเพียงความคิดคร่าวๆ เกี่ยวกับความงดงาม และความวิเศษของพระเจ้าเท่านั้น เราสามารถใช้จินตนาการของเราได้ แต่ทุกสิ่งที่เราคิดได้ก็ยังคงห่างไกลจากสวรรค์จริงๆอยู่ดี อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงอนุญาตให้เราเห็นแวบๆ ผ่านพระวจนะของพระองค์ ในความเป็นจริง พระคัมภีร์ใช้ภาพที่เราเข้าใจได้ เพื่ออธิบายสิ่งที่เราคาดคิดไม่ถึง เราพบคำบรรยายมากมายเกี่ยวกับความงดงาม และพระสิริของพระเจ้าในพระคัมภีร์ ตัวอย่างเช่น ในวิวรณ์ 4:3 เขียนว่า “และท่านที่ประทับบนพระที่นั่งนั้นปรากฏเหมือนแจสเพอร์และคาร์เนเลียน และมีรุ้งรอบๆ พระที่นั่งนั้น ปรากฏเหมือนมรกต” ฉันเชื่อว่า ภาพเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อจุดประกายจินตนาการของเรา และเพิ่มพูนความเชื่อของเรา คุณเคยคิดเกี่ยวกับสวรรค์บ้างไหม? เกี่ยวกับวันที่คุณจะอยู่ชั่วนิรันดร์ใน “พระนิเวศน์ของพระเจ้า” กษัตริย์ดาวิด ผู้แต่งบทกวีอันงดงามเพื่อสรรเสริญพระเจ้า…

คุณถูกเลือก

ขอให้เรามุ่งความสนใจไปที่ พระพรอันประเสริฐที่สุดในชีวิตคริสเตียน ก็คือ ชีวิตนิรันดร์ สวรรค์ที่เป็นจริง และพระเจ้ารอคุณอยู่ที่นั่น คุณเคยพยายามจินตนาการความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าไหม? สติปัญญาและความคิดของเราจำกัดมาก จนเราไม่สามารถวัดความยิ่งใหญ่ของพระองค์ได้ นี่คือสิ่งที่กษัตริย์ซาโลมอนสังเกตเห็น เมื่อการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าเสร็จสิ้น…  “แต่แท้จริงพระเจ้าจะประทับบนแผ่นดินโลกหรือ? ดูสิ ฟ้าสวรรค์และฟ้าสวรรค์อันสูงสุดยังรับพระองค์อยู่ไม่ได้ แล้วพระนิเวศนี้ซึ่งข้าพระองค์ได้สร้างขึ้นจะรับพระองค์ได้อย่างไร?” ‭‭1 พงศ์กษัตริย์‬ ‭8‬:‭27‬‬‬ วิหารของซาโลมอนคงจะงดงามมาก แต่ก็ไม่กว้างขวางพอที่จะรับรองพระเจ้าได้ ถึงกระนั้น พระสิริของพระเจ้าก็เต็มไปทั่วทั้งวิหาร (ดูพระธรรม‭‭2 พงศาวดาร‬ ‭7‬:‭1‬‬‬) ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับจักรวาลและผู้สร้าง มักถูกจำกัดอยู่แค่สิ่งที่ตาเรามองเห็นได้ หนังสือบางเล่มเปรียบเทียบขนาดของโลกและดวงอาทิตย์ โดยวางไว้เคียงข้างกัน ในขณะที่ดวงอาทิตย์ดูเหมือนโครงสร้างกลมสีเหลืองสดใส…

พระเจ้าทรงรักคุณอย่างไม่มีสิ้นสุด

เมื่อวาน พระเจ้าทรงเตือนคุณถึงความรักของพระองค์… แต่ คุณจะวัดความรักที่พระองค์ทรงมีต่อคุณได้อย่างไร? วันนี้ ฉันอยากให้คุณเห็นมิติของความรักของพระองค์ ผู้ทรงเป็นอัลฟาและโอเมก้า ผู้เป็นเบื้องต้นและเบื้องปลาย พระองค์ทรงรักคุณด้วยความรักอันไม่มีที่สิ้นสุด ที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ความรักของพระองค์เป็น… ความรักนิรันดร์ ช่างเป็นของขวัญอันวิเศษและแสนพิเศษอะไรเช่นนี้ มันยังหมายความว่า ไม่มีสิ่งใดหรือไม่มีใคร สามารถพรากความรักของพระองค์ไปจากคุณได้ ดังที่อาจารย์เปาโลได้อธิบายไว้  “เพราะข้าพเจ้าแน่ใจว่า แม้ความตาย หรือชีวิต หรือบรรดาทูตสวรรค์ หรือเทพเจ้า หรือสิ่งซึ่งมีอยู่ในปัจจุบันนี้ หรือสิ่งซึ่งจะมีในภายหน้า หรือฤทธิ์เดชทั้งหลาย หรือซึ่งสูง หรือซึ่งลึก หรือสิ่งใดๆ อื่นที่ได้ทรงสร้างแล้วนั้น…