Miracles

Home | Miracles | Page 17

The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!

พระเจ้าทรงอยู่เพื่อคุณ และอยู่กับคุณ!

“ความเชื่อของฉันลดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะสถานการณ์ของฉัน… ดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเลย และฉันก็สงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ”  นี่คือสิ่งที่ผู้อ่าน “อัศจรรย์เกิดขึ้นได้ทุกวัน” คนหนึ่งส่งมาให้ฉัน  ฉันคิดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่หลายคนเคยเผชิญ หรืออาจจะเผชิญในอนาคต ดังนั้น ตลอดทั้ง 7 วันหลังจากนี้  ฉันอยากจะพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับ กุญแจสำคัญในการสร้างเสริมความเชื่อ ทุกวัน คุณจะได้อ่านเกี่ยวกับเคล็ดลับใหม่ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อ.. เปิดประตูที่ยังคงปิดอยู่เบื้องหน้าคุณมาจนถึงตอนนี้ วันนี้ กุญแจดอกแรกมาจากปากของพระเยซูโดยตรง พระองค์ตรัสว่า… “เราบอกเรื่องนี้กับพวกท่าน เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา ในโลกนี้ท่านจะประสบความทุกข์ยาก แต่จงมีใจกล้าเถิด เพราะว่าเราชนะโลกแล้ว”” (ยอห์น 16:33) พระเยซูทรงแบ่งปันเรื่องราว…

พระเจ้าทรงฤทธิ์…ในความรักของพระองค์ แน่นอน 💖

ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เราได้สำรวจแง่มุมต่างๆ ของฤทธานุภาพของพระเจ้า ฉันได้เก็บ “สิ่งที่ดีที่สุดไว้ในตอนจบ” สำหรับคุณ พระคัมภีร์เน้นย้ำถึงความรักของพระเจ้าที่สำแดงผ่านพระเยซู “เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง” (1 ยอห์น 3:16) พระเจ้าทรงฤทธิ์ในความรักของพระองค์ พระองค์ทรงลงมารับสภาพมนุษย์บนโลกผ่านทางพระเยซู  ความรักของพระองค์ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงมอบพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เป็นเครื่องบูชา เพื่อให้เรากลับคืนดีกับพระองค์ ในการสำแดงพิเศษนี้ พระเจ้าทรงกระทำสิ่งต่างๆมากมาย… วันนี้ พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะโอบกอดคุณไว้ ด้วยความรักของพระองค์  แต่ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น… พระองค์ยังทรงต้องการให้คุณแบ่งปันมันออกไป ยังผู้คนรอบๆตัวคุณอีกด้วย  เพราะพระองค์ทรงต้องการให้คุณทำให้ความรักของพระองค์เป็นที่รู้จัก ตามอย่างพระเยซู พระองค์ทรงเรียกคุณให้สละชีวิตเพื่อเพื่อนของคุณ เพื่อพี่น้องของคุณ…

พระเจ้าทรงฤทธิ์…ในความซื่อสัตย์ของพระองค์

ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่หายไปในยุคสมัยนี้  มันอาจจะดู “เชย”  หรือ “ล้าสมัย”  แต่ดีที่พระเจ้าไม่ทรงเป็นเหมือนมนุษย์  ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและกระแสของโลก… กษัตริย์ดาวิดทรงยอมรับและสัมผัสกับความซื่อสัตย์ของพระองค์ โดยทรงยืนยันว่า “ข้าพเจ้าเคยหนุ่ม และเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือเห็นพงศ์พันธุ์ของเขาขอทาน” (สดุดี 37:25) การแสดงความซื่อสัตย์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันไม่ใช่ธรรมชาติของเราเท่าไหร่ ฉันเชื่อว่า ถึงแม้เราจะพยายามอย่างมาก แต่ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้าแล้ว  การเป็นคนซื่อสัตย์ให้ได้ทุกที่ตลอดเวลานั้น คงเป็นไปไม่ได้  ดังที่พระธรรมสุภาษิตกล่าววไว้ “คนมากมายป่าวร้องความจงรักภักดีของตัวเอง แต่ใครจะหาคนซื่อสัตย์พบเล่า?” (สุภาษิต 20:6)  ในทางตรงกันข้าม ความซื่อสัตย์นั้นเป็นพระลักษณะของพระเจ้า คุณรู้ไหมว่า……

พระเจ้าทรงฤทธิ์…ในความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของพระองค์

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เราได้พิจารณาถึงฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในหลายแง่มุม สิ่งเหล่านี้ได้สร้างความแตกต่างในชีวิตของคุณอย่างไรบ้างคะ? วันนี้ ฉันอยากดึงความสนใจของคุณไปที่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของพระเจ้า ดังที่พระคัมภีร์เน้นย้ำไว้ว่า… “เพราะการที่จะรู้จักพระเจ้าได้ก็แจ้งอยู่กับพวกเขา เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงสำแดงแก่เขาแล้ว ตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมานั้น สภาพของพระเจ้าซึ่งตามนุษย์มองไม่เห็น คือฤทธานุภาพอันถาวรและเทวสภาพของพระองค์ ก็ได้ปรากฏชัดในสรรพสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่มีข้อแก้ตัวเลย” (โรม 1:19-20) พระเจ้าทรงสถิตอยู่ทุกหนทุกแห่ง ประทับอยู่ในทุกที่ที่พระองค์ทรงสร้าง ด้วยความรักที่มีต่อคุณ พระเจ้าทรงสร้างโลกที่อุดมสมบูรณ์  อุดมด้วยทรัพยากรที่หลากหลายและแตกต่างกัน เพื่อประทานทุกสิ่งที่คุณจำเป็น  เช่นเดียวกับในยุคของอาดัมและเอวา คุณได้สืบทอดสิ่งทรงสร้างนี้  ซึ่งสอนคุณเกี่ยวกับพระลักษณะของพระเจ้าผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สร้างสรรค์ และเต็มล้นไปด้วยสิ่งทั้งปวง โดยการเสียสละของพระเยซู คุณได้กลายเป็นทายาทโดยตรง… ของพระเจ้าผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแสนดีอย่างน่าอัศจรรย์ ใช่แล้ว …

ทรงฤทธิ์…ที่จะช่วยกู้คุณ

วันนี้ ฉันอยากจะคุยกับคุณเกี่ยวกับการช่วยกู้ชาวอิสราเอลอย่างอัศจรรย์  และจะมาดูด้วยกันว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณอย่างไร “ยิ่งกว่านั้น เราได้ยินเสียงคร่ำครวญของชนชาติอิสราเอลซึ่งคนอียิปต์กักไว้เป็นทาส และเราระลึกถึงพันธสัญญาของเรา” (อพยพ 6:5)  ชนชาติฮีบรูถูกกดขี่ ถูกตี ถูกปล่อยให้อดอยาก พวกเขาทำงานหนักอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อฟาโรห์ที่โหดเหี้ยม ซึ่งกักขังพวกเขาไว้ในสภาพที่เลวร้ายมานานกว่า 400 ปี อย่างไรก็ตาม ไม้เท้าของโมเสส ซึ่งกลายเป็น “ไม้เท้าของพระเจ้า” ในมือของเขานั้น ได้สำแดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์มากมายมหาศาล ได้ช่วยปลดปล่อยผู้คนทั้งชาติ (อ่านเรื่องราวได้ที่นี่ อพยพ 7)  เมื่อพระเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยความทุกข์ของลูกๆ ของพระองค์ พระองค์ทรงตัดสินพระทัย ที่จะเข้ามาแทรกแซงอย่างทรงพลัง …

พระเจ้าทรงฤทธิ์ในการสนองความจำเป็นของเรา

เมื่อวานนี้เราได้พูดถึงฤทธิ์เดชของพระคำของพระเจ้า ซึ่งจะเกิดผลอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่เรียกว่า…พระสัญญา พระคัมภีร์ยังกล่าวถึงพระสัญญาอีกนับพัน ท่ามกลางสัญญาเหล่านี้ มีบางอย่างที่พระเจ้าทรงทำไว้ โดยไม่ลังเลใจเมื่อพูดถึงการดูแลเรา  นี่คือข้อความที่อ้างถึงพระสัญญานั้น ซึ่งฉันเองได้เห็นความสัตย์ซื่อของพระเจ้าเสมอในการรักษาสัญญานี้ ในชีวิตของฉันเอง “และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่พวกท่านจากทรัพย์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์” (ฟิลิปปี 4:19)  ข้อความนี้ โดดเด่นมากสำหรับฉัน “จากทรัพย์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์”  เมื่อพระเจ้าทรงสนองความจำเป็นของเรา พระองค์มักจะสำแดงการอัศจรรย์ของพระองค์เสมอ  เมื่อพระองค์ทรงตอบคำอธิษฐานของเรา พระเจ้าทรงแสดงให้เห็นทั้งความมั่งคั่งและความรุ่งเรืองของพระองค์ ผ่านความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่ไร้ขอบเขต และความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุด พระเจ้าทรงทราบว่าเรามีแนวโน้มที่จะกังวล ทั้งใบแจ้งหนี้ที่ต้องจ่าย ค่าเทอมลูก หรือแม้แต่การทำให้ครอบครัวมีความสุข และอีกมากมาย คุณเป็นแบบนี้หรือเปล่าคะ? นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไมพระเจ้าจึงย้ำเตือนคุณว่าพระองค์ทรงใส่ใจคุณ…

ทรงพลัง…ผ่านพระวจนะของพระองค์

เมื่อพระเจ้าตรัส ไม่ใช่เพื่อการเปล่าประโยชน์หรือไร้ผล นี่คือสิ่งที่เราได้รับการบอกกล่าว ในหนังสือของอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะ “ทำนองเดียวกัน คำของเราที่ออกจากปากของเรา จะไม่กลับมาสู่เราเปล่าๆ แต่จะทำให้สิ่งที่เราพอใจนั้นสำเร็จ และให้สิ่งที่เราใช้ไปทำนั้นเสร็จสิ้น” ‭‭อิสยาห์‬ ‭55‬:‭11‬ ลองนึกภาพว่า… เมื่อเสียงของพระองค์ดังขึ้น จักรวาลถือกำเนิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดทรงพลังไปกว่าพระวจนะของพระเจ้าอีกแล้ว เพราะพระวจนะอยู่กับพระเจ้าตั้งแต่ก่อนเริ่มแรกสร้างโลก และพระวจนะนั้นคือพระเจ้า ซึ่งยอห์นได้บอกเราไว้ (ดูพระคัมภีร์ ยอห์น 1:1) เมื่อพระเจ้าตรัส พระองค์ทรงทำทุกอย่างที่พระองค์ตรัส พระวจนะของพระองค์ทรงสร้างชีวิตและพระพร (ดูพระคัมภีร์ ‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ 28:2 และ ‭‭เฉลยธรรมบัญญัติ‬ 28:15)…

ทรงพลัง…เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้ทรงฤทธิ์

“พระเจ้าทรงพลัง” คงเป็นคำพูดที่แพร่หลาย ใช้ซ้ำ และใช้บ่อยมาก บางทีวันนี้ความหมายของความทรงพลัง… คงจืดจางลงไปสำหรับคุณไปแล้วหรือเปล่า? บ่อยครั้ง เมื่อเราคิดถึงพลัง เรามักจะนึกภาพว่ามันเป็นพลังที่ไม่หยุดยั้ง รุนแรง ราวกับพละกำลังของซูเปอร์ฮีโร่ แต่แท้จริงแล้ว พลังของพระเจ้านั้นมีหลายแง่มุม ซึ่งฉันอยากจะชวนคุณมาค้นพบด้วยกันในสัปดาห์นี้ นี่คือหนึ่งในแง่มุมที่เปิดเผยให้เราเห็นในพระคัมภีร์เล่มแรกคือ… พระเจ้าทรงเป็นผู้ทรงฤทธิ์ “เมื่ออายุอับรามได้ 99 ปี พระยาห์เวห์ทรงปรากฏแก่อับรามและตรัสแก่ท่านว่า “เราเป็นพระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ จงดำเนินอยู่ต่อหน้าเราและเป็นคนดีพร้อม เราจะทำพันธสัญญาของเราระหว่างเรากับเจ้า เราจะทวีเชื้อสายของเจ้าให้มากมายมหาศาล”” ‭‭ปฐมกาล‬ ‭17‬:‭1‬-‭2‬ นี่คือวิธีที่พระเจ้าทรงแนะนำพระองค์เองแก่อับราฮัม เมื่อพระองค์ทรงแจ้งให้ทราบถึง… อนาคตอันน่าประทับใจที่อยู่เบื้องหน้าเขา พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์…

คุณถูกเรียกให้ครอบครอง 👑 

การฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูมาพร้อมกับความหวังนิรันดร์ แต่ไม่เพียงเท่านั้น มันยังนำความหวังมาสู่ชีวิตของเราบนโลกใบนี้ด้วย ลองอ่านด้วยกันว่าอัครสาวกเปาโลได้พูดไว้ในโรม 5:17 ว่าอย่างไร “เพราะว่าถ้าโดยการละเมิดของคนเดียว เป็นเหตุให้ความตายครอบงำอยู่โดยคนเดียวนั้น มากยิ่งกว่านั้นคนทั้งหลายที่รับพระกรุณาอันไพบูลย์ และรับของประทานคือความชอบธรรมก็จะดำรงชีวิต และครอบครองโดยพระองค์ผู้เดียว คือพระเยซูคริสต์” ชีวิตของคุณถูกเรียกให้มีส่วนในการครอบครอง ไม่ใช่ให้ถูกบดขยี้ด้วยสถานการณ์แวดล้อมหรือความมืดมน พระเยซูทรงเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า… อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงย้ำเตือนคุณในวันนี้ว่า คุณคือผู้ครอบครอง ไม่ใช่ผู้ถูกทดลอง คุณลองดูสิ่งที่ถูกเปิดเผยไว้ในพระธรรมโรม 5:17 ที่กล่าวมาข้างบนนะคะ  ด้วยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ พระเจ้าทรงทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า ฤทธิ์อำนาจแห่งชีวิตใหม่ของพระองค์ กำลังดำเนินอยู่ในชีวิตของคุณ ตอนนี้และตลอดไป เห็นไหมคะ ชีวิตของคุณถูกเรียกให้สะท้อนฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ซึ่งแตกต่างไปจากชีวิตแห่งความพ่ายแพ้ที่ศัตรูอยากให้คุณยอมรับ…