The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!
คุณเป็นส่วนหนึ่งของพระกายของพระคริสต์
หากคุณเคยดูหนังเรื่อง Gladiator (กลาดิเอเตอร์ – นักรบผู้กล้าผ่าแผ่นดินทรราช) คุณจำคติพจน์ของนายพลแม็กซิมัสที่บอกว่า “รวมกัน เป็นหนึ่งเดียว” ได้ไหม? กองทัพโรมันใช้กลยุทธ์ทางทหารที่น่าเกรงขาม เพื่อเอาชนะ… การแบ่งแยกและการเอาชนะ ซึ่งพระเยซูทรงรู้กลยุทธ์สงครามนี้เป็นอย่างดี และพระองค์กล่าวให้เราเห็นภาพชัดขึ้น… “พระเยซูทรงทราบความคิดของพวกเขา จึงตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ราชอาณาจักรใดๆ ซึ่งแตกแยกกันแล้ว ก็คงพินาศ เมืองใดๆ หรือบ้านใดๆ ซึ่งแตกแยกกันแล้ว จะตั้งอยู่ไม่ได้” (มัทธิว 12:25) อันที่จริง เมื่อสมาชิกหนึ่งคนหรือจำนวนหนึ่งป่วยหรือไม่ซื่อสัตย์ ร่างกายทั้งหมดจะอ่อนแอลง นี่คือสิ่งที่ จอห์น…
จงเป็นอิสระอย่างแท้จริง
วันนี้เป็นวันที่สองของซีรีส์ของเรา จากหนังสือของ จอห์น บีเวียร์ เรื่อง “Killing Kryptonite: Destroy What Steals Your Strength” (ฆ่าคริปโตไนท์: ทำลายสิ่งที่ขโมยพลังของคุณ) คุณได้ยินเสียงของพระเจ้าเปิดเผยสิ่งที่หยุดคุณ… ไม่ให้สัมผัสฤทธิ์อำนาจของพระองค์อย่างเต็มที่หรือไม่? ด้วยความช่วยเหลือจากพระวจนะของพระเจ้า ฉันอยากจะเน้นที่… วิธีที่เราจะกำจัดผลกระทบที่เป็นอันตรายของสิ่งที่คุมขังเรา และทำให้เราอ่อนแอ พระคัมภีร์สอนเราอย่างนี้ว่า “เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป” (ยากอบ 4:7) และ “ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อจะไม่ถูกการทดลอง…
อะไรคือจุดอ่อนของคุณ?
ข้อความตลอด 7 วันหลังจากนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ “Killing Kryptonite: Destroy What Steals Your Strength” (ฆ่าคริปโตไนท์ – ทำลายสิ่งที่ขโมยพลังของคุณ) โดย จอห์น บีเวียร์ ซึ่งเป็นนักพูดและนักเขียนที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง พวกเราส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับคำว่า “คริปโตไนท์” จากหนังเรื่องซุปเปอร์แมน ซูเปอร์ฮีโร่ผู้มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ เขามีจุดอ่อนเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ คริปโตไนท์ สารชนิดนี้สามารถทำให้พลังเหนือธรรมชาติของเขามลายหายไปได้ ในหนังสือ จอห์น บีเวียร์ ได้เปรียบเทียบไว้อย่างน่าสนใจกับชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา ในฐานะลูกของพระเจ้า…
จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด
บางครั้งเราก็สามารถรู้สึกไร้หนทางได้ เมื่อต้องเผชิญกับความต้องการมากมายของโลกนี้ การต้องเผชิญหน้าความทุกข์ยาก การทดลองที่หนักหน่วงที่สามารถทำให้เรายอมแพ้ได้อย่างง่ายๆ เราอาจรู้สึกสับสนและคิดว่า “พระเจ้า ลูกจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นี้ได้อย่างไร?” นี่คือสิ่งที่โยชูวาผู้รับช่วงต่อจากโมเสสรู้สึก เมื่อต้องเผชิญกับภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ นั่นคือ การพิชิตคานาอัน ผ่านทางเมืองเยรีโค ซึ่งเขาต้องทำลาย และนั่นเป็นช่วงเวลาที่ พระเจ้าทรงให้หนุนใจเขาอย่างมาก “เราสั่งเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าจงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่าครั่นคร้ามหรือตกใจเลย เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าสถิตกับเจ้าทุกแห่งที่เจ้าไป” (โยชูวา 1:9) ฉันขอชื่นชมคุณ หากคุณได้ตัดสินใจรับใช้พระเจ้า แม้จะมีความกังวลอยู่ ขอให้รู้ว่าคำสั่งที่พระเจ้าประทานแก่โยชูวานี้ก็ใช้ได้กับคุณเช่นกัน คุณผู้ที่อาจตัวสั่นก่อนจะเปิดปากแบ่งปันความเชื่อของคุณ หรือวางมือบนคนป่วย คุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจาก การเสริมกำลังตัวเองขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และก้าวไปข้างหน้า เพราะคำสั่งที่มาถึงคุณนี้…
พระเจ้าทรงแสดงความยินดีกับคุณเป็นการส่วนตัว
จริงๆ แล้ว พระเจ้าไม่ต้องมีเราก็ได้ แต่เราต่างหากที่ต้องการพระองค์ ถึงกระนั้น พระองค์ก็ทรงเรียกเราให้ร่วมมือกับพระองค์ และทำงาน “เคียงข้าง” พระองค์ เพื่อให้มนุษย์รู้จักพระองค์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวที่แท้จริง ยิ่งไปกว่านั้น พระองค์ทรงมีความสุข เมื่อเราทำงานเพื่อพระองค์ ดังที่คำอุปมา เรื่องคนรับใช้กับเงินตะลันต์ยกตัวอย่างให้เราเห็น “นายจึงตอบว่า ‘ดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย เราจะตั้งเจ้าให้ดูแลของจำนวนมาก เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด’” (มัทธิว 25:21) ตรงนี้ เจ้านายแสดงความพอใจอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ชมเชยคนรับใช้ของเขา และยังเชิญเขาให้มาร่วมฉลองด้วยกัน อาจจะเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรือปาร์ตี้ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเป็นเกียรติแก่คนรับใช้?…
แม้จะเป็น “เรื่องเล็กน้อย” ก็สำคัญ…
การรับใช้พระเจ้า… เป็นสิ่งที่ลูกๆของพระองค์ส่วนใหญ่ปรารถนาจะทำ แต่บางคนก็ชอบที่จะรอจนกว่าพวกเขาจะมีคุณสมบัติที่ดีพอ หรือรู้สึกพร้อมที่จะทำ บางคนก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะกลัวว่าจะทำผิด บางคนลังเลอยู่ ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้รับเรียกจริงๆหรือไม่ คุณเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้หรือเปล่า? ถ้าใช่ พระเยซูทรงเรียกคุณวันนี้ ให้คุณออกไปรับใช้พระองค์ และพระองค์กำลังชวนให้คุณเริ่มต้นจาก “เรื่องเล็กน้อย” “คนที่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อยจะซื่อสัตย์ในของมากด้วย…” (ลูกา 16:10) คุณจะเห็นว่า “เรื่องเล็กน้อย” มีความสำคัญต่อพระเจ้า ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องเหล่านี้มีจุดประสงค์ ไม่เพียงแต่สำหรับคุณเท่านั้น แต่สำหรับพระเจ้าด้วย ลองมาดูเป้าหมายนี้กันสักหน่อยนะคะว่าคืออะไร เพื่อคุณ ผ่านการทวีคูณ “เรื่องเล็กน้อย” เหล่านี้ และรวบรวมเรื่องเล็กน้อยนี้เข้าด้วยกัน…
พระเจ้าทรงแสนดี… จริงหรือ?
คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า “เราอยู่ที่นี่ไปเพื่ออะไร?” ถ้าคุณยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ งั้นเรามาหาคำตอบไปด้วยกันในวันนี้ บางคน (คิดผิด) ว่าวิธีเดียวที่จะบรรลุแผนของพระเจ้าคือ… มันคล้ายๆกับการทำ “ทุกรกิริยา” หรือ ภาวะพลีชีพเพื่อศาสนา แต่จริงๆแล้ว พระเจ้าทรงสร้างคุณด้วยความชื่นชมยินดีอย่างมาก จนเป็นไปไม่ได้… ที่พระองค์จะสร้างความผิดหวังให้กับคุณโดยไม่จำเป็น นี่คือบางส่วนของเนื้อเพลงจาก “พระบิดา” ของ คุณบงกช ฮัดซัน “ด้วยพระปัญญาทรงช่วยให้เรารอดพ้น ด้วยพระกำลังทรงช่วยให้เราเริ่มใหม่ ส่งความรักแท้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง มาท่ามกลางพวกเรา พระบิดา เราร้องพระบิดา พ่อที่ยิ่งใหญ่ พ่อที่มีความรักทุกเวลา” มีบางครั้งที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้คุณ… ไปทำภารกิจที่ยากลำบากและน่าอึดอัด…
ฟังเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์
หลายครั้งในพระคัมภีร์ เราจะเห็นพระเจ้าตรัสกับประชาชนของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรัสผ่านเสียงของบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระองค์ อิสยาห์ประกาศการเสด็จมาของพระเยซู และเผยพระวจนะเกี่ยวกับงานแห่งความรอด ที่พระเจ้าของเราจะกระทำในอีกหลายร้อยปีต่อมา ผู้เผยพระวจนะได้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพระเยซูแก่เรา “และพระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะทรงอยู่บนท่าน คือพระวิญญาณแห่งปัญญาและความเข้าใจ พระวิญญาณแห่งคำปรึกษาและอานุภาพ พระวิญญาณแห่งความรู้และความยำเกรงพระยาห์เวห์” (อิสยาห์ 11:2) กล่าวอีกอย่างคือ พระเยซูจะได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ และพระองค์จะไวต่อเสียงของพระวิญญาณเสมอ นั่นคือเรื่องราวที่เราเห็นได้ในพระกิตติคุณทั้ง 4 เล่ม การกระทำและการตัดสินใจของพระเยซูบนโลก แต่ละอย่างล้วนสมบูรณ์แบบ และเป็นมาจากการดลใจของพระเจ้า พระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ภายในคุณ (อ่าน 1 โครินธ์ 3:16) คุณรู้หรือไม่? พระองค์ทรงเป็นเพื่อนของคุณ…
คุณจะประสบความสำเร็จ
คุณเคยใฝ่ฝันที่จะเป็นคนอื่นไหม? หรืออาจจะอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทิศทางอื่น เช่น กล้าหาญมากขึ้น มีวินัยมากขึ้น มีระเบียบวินัยที่ดีขึ้น? ฉันอยากช่วยคุณโดยการย้ำคุณก่อนเลยว่า พระเจ้าทรงรักคุณด้วยความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และพระองค์ทรงรักคุณอย่างที่คุณเป็น เช่นเดียวกับที่ 1 ยอห์น 4:16 กล่าวว่า “ฉะนั้นเราจึงรู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระเจ้าทรงเป็นความรัก และผู้ที่อยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงอยู่ในคนนั้น” คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อให้ได้รับความรักมากขึ้น คุณเชื่ออย่างนั้นจริงๆใช่ไหม แต่คุณสามารถทำอะไรบางอย่างเพื่อให้รักมากขึ้นได้… โปรดรู้ไว้ว่าด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า คุณสามารถกลายเป็นคนที่ดีขึ้น คุณสามารถรับมือกับความท้าทายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงได้ หรือกลายเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความเชื่อมากขึ้นอย่างสมบูรณ์ได้ หากสิ่งนี้ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับคุณ พระคัมภีร์ยืนยันว่า คุณจะประสบความสำเร็จ “‘…ใครเชื่อก็ทำให้ได้ทุกสิ่ง”’”…