Miracles

Home | Miracles | Page 12

The Bible is full of miracles that speak of a living God. He is the God that makes the impossible, possible! He makes all things work together for good. He wants to bless you! “A Miracle Every Day” will help you develop your faith and experience the presence and power of God!

กุญแจ 3 ประการสู่การเยียวยาหลังจากความโกรธ

วันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันกุญแจ 3 ประการสำคัญ สำหรับการเยียวยาหลังจากความโกรธเคือง คุณรู้หรือไม่ว่า เมื่อเราถูกรังแก เราจะใช้วิธีการต่างๆ ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว เพื่อปกป้องหัวใจของเรา ตัวอย่างเช่น… จริงๆแล้ว กลยุทธ์เหล่านี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก แผลที่หายไม่สนิทอาจเปิดออกใหม่ได้อีกครั้ง เมื่อมีปัญหาเพียงเล็กน้อย วันนี้ฉันอยากหนุนใจคุณให้ลองทำตาม 3 ขั้นตอนนี้ ฉันขอเชิญคุณให้ลองนำคำแนะนำทั้งสามข้อนี้ไปปฏิบัติ เพราะมันเป็นกุญแจที่พระเจ้าอาจจะใช้ เพื่อปลดปล่อยคุณจากความขมขื่น ความโกรธแค้น และความทุกข์ได้ จงวางใจในพระเจ้า พระองค์ผู้เดียวเท่านั้น ที่จะทรงเยียวยาหัวใจ จิตวิญญาณ และความคิดของคุณได้ พระองค์ทรงเปลี่ยนโศกนาฏกรรมของคุณ ให้เป็นการร่ายรำด้วยความยินดี…

พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าความทุกข์ของคุณ

เราจะพูดถึงการให้อภัยได้อย่างไร โดยไม่พูดถึงแผลเป็น? การให้อภัยไม่ได้ทำให้ความผิดที่เกิดขึ้นหายไป การให้อภัยไม่ได้ลบรอยแผล แต่ช่วยให้แผลนั้นปิดสนิทผ่านกระบวนการรักษา ซึ่งนั่นอาจจะกลายเป็นแผลเป็น วันนี้ ฉันอยากจะแบ่งปันเนื้อเพลงนี้ให้คุณฟัง ซึ่งบรรยายถึงการเยียวยาจากพระเจ้า “เพลงให้ข้าหายดี” “ข้าแสวงหา ต้องการพระองค์ เหนือผู้ใด โปรดทรงรักษา ข้าเชื่อพระองค์ จะเยียวยา ข้าจึงเข้ามา โดยพระสัญญา เข้าใกล้พระองค์ ขอปกคลุมตัวข้าไว้ และทรงสัมผัส และโดยพระนาม เมื่อข้าร้องเรียก พระเยซู ผู้ทรงรักษา ทุกโรคภัย ทรงฤทธา พระหัตถ์พระองค์ ทรงยื่นออกมา ให้ข้ามองเห็น…

การให้อภัยไม่ใช่…

การให้อภัยไม่ใช่เพียงแค่… “ถ้าฉันให้อภัย เราคงต้องคืนดีและกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” แต่ไม่…ไม่จริง กระบวนการให้อภัยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับพระเจ้า การให้อภัยเป็นการเชื่อฟังพระองค์ “จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย” (โคโลสี 3:13) พระเจ้าขอให้คุณให้อภัยเพื่อคืนดีกับ…พระองค์ ไม่ใช่การกลับไปเป็นเพื่อนกับคนที่ทำร้ายคุณอีก แน่นอน ถ้ามันเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะกลับไปมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่พระเจ้าขอให้คุณทำคือ… การให้อภัย เมื่อเรายังคงมีความขมขื่นต่อใครบางคน สภาพจิตใจของเราจะไม่เอื้อให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำกิจ หรือทรงเคลื่อนไหวในชีวิตของเรา การให้อภัยใครสักคน จะช่วยฟื้นฟูการเชื่อมต่อระหว่างหัวใจของเรา กับหัวใจของพระบิดาบนสวรรค์ เมื่อคุณกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันอยากหนุนใจคุณให้เลือกสิ่งที่สำคัญต่อพระเจ้า เส้นทางแห่งการให้อภัยไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อคุณเลือก…

ความรัก ไม่ช่างจดจำความผิด

ฉันอยากหนุนใจคุณอีกครั้งในวันนี้ ให้ดูแลหัวใจของคุณให้ดี บางครั้ง เพียงแค่การโกรธแค้นเล็กน้อย คำพูดหรือแววตา คำพูดที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอที่จะทำให้ความขมขื่นเกิดขึ้นในตัวเราได้ ดังนั้น วันนี้มีข้อคิดดีๆ จากหนังสือของซาราห์ ฮอร์น เรื่อง How Can I Possibly Forgive? (แล้วฉันจะให้อภัยได้อย่างไร?) เพื่อช่วยให้เราให้อภัยได้อย่างรวดเร็ว  ในหนังสือเธอได้กล่าวไว้ว่า “โดยการมองโลกในแง่ดีกับผู้อื่น เมื่อพวกเขาทำบางสิ่งที่ทำให้เราผิดหวัง ขอให้เราเตือนตัวเองว่า เราทุกคนเป็นมนุษย์และความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้” ลองนึกตามภาพนี้ไปด้วยกัน เช้าวันหนึ่ง เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศของคุณไม่ได้ทักทายคุณ และตลอดทั้งเช้า คุณสงสัยว่าคุณทำอะไรให้เขาโกรธ ถึงได้ถูกมองข้าม…

ตอนนี้หัวใจของคุณเป็นอย่างไร?

คำถามที่ฉันมีให้คุณวันนี้ เป็นคำถามที่ง่ายมาก แต่บางครั้ง คำตอบก็อาจจะซับซ้อนอยู่เหมือนกัน คือ “ตอนนี้หัวใจของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?” หัวใจของคุณเต็มไปด้วยความคิดแย่ๆอยู่เสมอไหม เช่น “ฉันไร้ค่า” หรือ “ฉันทำไม่ได้แน่ๆ” คุณเคยถูกทำร้ายอย่างรุนแรงด้วยคำพูด หรือท่าทีของใครบางคนหรือไม่? คุณกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ยุติธรรมหรือไม่? คุณกำลังคิดวนเวียนไปมา จมอยู่กับความคิดแย่ๆ แบบนี้ไม่รู้จบหรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้น พี่น้องที่รัก วันนี้ฉันอยากให้กำลังใจคุณ ขอให้คุณอธิษฐาน… ให้พระเจ้าทรงเปิดเผยแหล่งที่มาของความทุกข์ภายในของคุณ คุณอาจจะได้รับคำตอบหรืออาจจะไม่ได้รับก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ คุณสามารถเปิดใจของคุณต่อพระเจ้า และวางใจพระองค์สำหรับสิ่งที่เหลือได้ “สิ่งที่รบกวนหัวใจของเราก็รบกวนจิตวิญญาณของเราด้วย” ซาราห์ ฮอร์น กล่าวไว้ในหนังสือของเธอที่ชื่อว่า…

​​การงานที่ยิ่งใหญ่จะสำเร็จผ่านคุณได้

ตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมานี้ คุณอาจค้นพบวิธีการเดินร่วมกับพระเยซูด้วยสันติสุข และความมั่นใจได้มากขึ้น วันนี้ พระองค์กำลังเชื้อเชิญคุณให้ลงมือทำอะไรบางอย่าง โดยฉันอยากหนุนใจคุณด้วยพระคำนี้ “เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา” (ยอห์น 14:12)  เหมือนกับว่าพระองค์ตรัสกับคุณว่า “ถึงเวลาที่เจ้าต้องลงมือทำอะไรบางอย่างแล้ว เราได้ประทานทุกอย่างให้เจ้าแล้ว ทั้งเอกลักษณ์ของเราและฤทธิ์เดชของเรา จงเชื่อในเรา และเจ้าจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเรา” ด้วยการวางใจในพระคำขององค์พระผู้เป็นเจ้า คุณจะเข้าสู่ดินแดนของความหมายแห่งคำว่า “ทุกสิ่งเป็นไปได้” อย่างแท้จริง ฉันขอให้คุณเริ่มลงมือทำเดี๋ยวนี้ คุณมีกุญแจทุกดอกที่จะทลายป้อมปราการ คำโกหก และตรรกะอันไร้เหตุผล (อ่าน 2…

จะเป็นอย่างไรถ้าคุณสามารถทำการอัศจรรย์ได้?

คุณเคยรู้สึกท้อแท้ใจไหม เมื่ออ่านเรื่องการอัศจรรย์อันแสนวิเศษในพันธสัญญาใหม่ โดยคิดว่า “เรื่องราวแบบนี้คงเหมาะสำหรับสาวกของพระเยซูเท่านั้น ฉันคงไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นได้หรอก”? อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นไป เพราะพระเยซูตรัสไว้ว่า… “มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่นั้น คือพวกเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ พวกเขาจะจับงูได้ด้วยมือเปล่า ถ้าพวกเขากินยาพิษใดๆ มันจะไม่ทำอันตรายแก่พวกเขา และพวกเขาจะวางมือบนคนเจ็บคนป่วย แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค” (มาระโก 16:17-18) แม้บางสิ่งอาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่พระสัญญาของพระองค์ในอดีตยังคงใช้ได้ในปัจจุบัน บางครั้ง สิ่งที่ขวางกั้นเราไม่ให้ทำการงานและสำแดงพระสิริของพระเจ้า ก็เกิดขึ้นจากคำหลอกลวงที่มารต้องการให้เรายอมรับ แต่พระเจ้าไม่ได้ขอให้คุณทำอะไรพิเศษ นอกจากเชื่อในพระองค์ พระองค์มิได้ตรัสไว้ในยอห์น 11:40 หรือว่า “…ถ้าเธอเชื่อ ก็จะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า?” สำหรับความเชื่อผิดๆเหล่านี้…

คุณเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่

คุณรู้จักพระธรรมข้อนี้ไหม? “…เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นเช่นไร เราในโลกนี้ก็เป็นเช่นนั้น” (1 ยอห์น 4:17) เปโตร อัครสาวกอีกคนหนึ่ง ได้กล่าวไว้ใน 2 เปโตร 1:3-4 ว่าเราเป็นผู้มีส่วนร่วมในพระลักษณะของพระเจ้า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พระเจ้าประทานทุกสิ่งให้เราแล้วอย่างครบถ้วนในพระองค์ ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิต และการเป็นเหมือนพระเจ้า แต่ถ้าพูดถึงสภาพความเป็นจริง มีหลายครั้งที่เรารู้สึกถึง “พระลักษณะของพระเจ้า” นี้ไม่เต็มที่ว่า… เราถูกเรียกเพื่อพระสิริของพระองค์ ได้รับการประทานอุปกรณ์เพื่อบรรลุแผนการของเรา และนั่นเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เราที่จะรู้สึกแบบนั้น แต่เมื่อคุณมีความรู้สึกแบบนี้ อย่าท้อใจและอย่าหยุดระหว่างทาง อย่ายอมแพ้ แต่เพียงแค่ยอมรับว่าคุณต้องการพระเจ้า นี่คือสิ่งที่ 2…

เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม

ข้อความใน 7 วันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ “Killing Kryptonite: Destroy What Steals Your Strength” (ฆ่าคริปโตไนท์: ทำลายสิ่งที่ขโมยพลังของคุณ) โดย จอห์น บีเวียร์ ซึ่งเป็นนักพูดและนักเขียนที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง  ในหนังสือ “ฆ่าคริปโตไนท์: ทำลายสิ่งที่ขโมยพลังของคุณ” จอห์น บีเวียร์ ผู้เขียน ได้รับแรงบันดาลใจจากหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อให้เราตระหนักถึงความสำคัญของพระกายของพระคริสต์ โดยอาศัยประสบการณ์ของเพื่อนคนหนึ่ง ผู้เขียนได้นิยามบทบาทและหน้าที่ของสหายร่วมรบในหน่วยซีล (SEAL) ของกองทัพเรือสหรัฐฯอย่างเจาะจง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาย้อนความทรงจำถึงคำพูดของเพื่อนเขาที่กล่าวไว้ว่า…