“ผู้ทรงนำท่านมาตลอดถิ่นทุรกันดารใหญ่น่ากลัว ซึ่งมีงูแมวเซาและแมงป่องและดินแห้งแล้งไม่มีน้ำ ผู้ประทานน้ำจากหินแข็งแก่ท่าน ผู้ทรงเลี้ยงท่านด้วยมานาในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จัก เพื่อพระองค์จะทรงทำให้ท่านถ่อมใจและทรงทดสอบท่าน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์แก่ท่านในบั้นปลาย” (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:15-16)
ในพันธสัญญาเดิม กล่าวถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ของชนชาติอิสราเอล ที่ตกเป็นทาสในอียิปต์ไว้มากมาย พระเจ้าทรงส่งผู้ปลดปล่อยได้ช่วยกู้พวกเขาจากการถูกกดขี่นี้ และนำพวกเขาไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา ถึงแม้พวกเขาจะเดินทางนานถึง 40 ปีในทะเลทรายก็ตาม
สถานที่แห้งแล้ง มักไม่ใช่สิ่งที่เราแสวงหา แต่ทว่า การออกจากอียิปต์และเข้าสู่ทะเลทรายแห่งนี้เอง ที่ทำให้ประชาชนอิสราเอลได้ประสบกับการอัศจรรย์มากมาย
- เสาเมฆในเวลากลางวัน และเสาเพลิงในเวลากลางคืน (ดู อพยพ 13:21)
- ทะเลแดงที่แยกออก (ดู สดุดี 106:9)
- มานาจากสวรรค์ (ดู สดุดี 78:24)
- การรักษา (ดู กันดารวิถี 21:9)
- น้ำที่ไหลออกมาจากก้อนหิน (ดู อพยพ 17:6)
ประสบการณ์กับการอัศจรรย์ของพระเจ้า มักเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนสิ่งอื่นใด ในช่วงเวลาที่ เราเผชิญกับการถูกบีบคั้นจนไม่มีทางออก ถ้าสถานการณ์ของคุณเป็นเช่นนี้ในวันนี้ ขอให้คุณประกาศออกมาด้วยกันกับฉันว่า… “ลูกเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในความรักที่พระองค์ทรงมีต่อลูก ขอบพระคุณที่สิ่งที่ดูเหมือนเป็นทะเลทรายในตอนนี้นั้น แท้จริงแล้ว เป็นพื้นที่ที่พระองค์จะทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจอันอัศจรรย์ของพระองค์ ขอบพระคุณที่ทรงทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นไปได้ในวันนี้ ขอบพระคุณที่ความเป็นไปไม่ได้ของมนุษย์ เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์จะทรงกระทำการ ในพระนามพระเยซู เอเมน”
คุณคือการอัศจรรย์