กล้าทำอย่างเต็มกำลัง

พระคัมภีร์เล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ไม่กล้าที่จะทำตามสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญากับเขาอย่างเต็มที่

นั่นคือเรื่องราวของ บาราค ชายผู้ถูกพระเจ้าเลือก ให้ปลดปล่อยชาวยิวจากกษัตริย์คานาอันผู้กดขี่อิสราเอล

“นางใช้คนไปเรียกบาราคบุตรอาบีโนอัม ให้มาจากเคเดชในนัฟทาลีและกล่าวแก่เขาว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลทรงบัญชาท่านว่า ‘จงไปรวบรวมพล 10,000 คน จากเผ่านัฟทาลีและเผ่าเศบูลุนไว้ที่ภูเขาทาโบร์ และเราจะชักนำสิเสราแม่ทัพของยาบินให้มาพบกับเจ้าที่แม่น้ำคีโชน พร้อมกับรถรบและกองทหารของเขา และเราจะมอบเขาไว้ในมือของเจ้า’ ” บาราคจึงตอบนางว่า “ถ้าท่านไปกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะไป ถ้าท่านไม่ไปกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ไม่ไป” นางจึงตอบว่า “ฉันจะไปกับท่านแน่ แต่ว่าทางที่ท่านไปจะทำให้ท่านไม่ได้รับเกียรติ เพราะว่าพระยาห์เวห์จะขายสิเสราไว้ในมือของหญิงคนหนึ่ง” แล้วนางเดโบราห์ก็ลุกขึ้นไปกับบาราคถึงเมืองเคเดช” (ผู้วินิจฉัย 4:6-9)

สุดท้าย กษัตริย์คานาอันถูกฆ่าตายโดยผู้หญิงชื่อยาเอล บาราคน่าจะมีเหตุผลที่ดีมาก ที่ไม่อยากเข้าการสู้รบเพียงลำพัง และเดโบราห์ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นนักวางกลยุทธ์ และผู้เผยพระวจนะที่เก่งกาจ  ซึ่งบาราคก็รู้เรื่องนี้ดี

ในบางช่วงเวลาของชีวิต เราทุกคนต่างก็เป็นเหมือนบาราค เมื่อสิ่งที่อยู่เบื้องหน้านั้นดูใหญ่เกินกว่าที่เราจะรับมือได้ บ่อยครั้งที่สัญชาตญาณของเราคือ…

• ลังเลที่จะก้าวไปข้างหน้า
• หาทางออกที่อยู่ใกล้ตัว
• ปฏิเสธว่าเราไม่สามารถทำได้
• หรือแม้กระทั่ง ล้มเลิกแผนทั้งหมด

ผลลัพธ์คือ เราไม่ยอมให้พระเจ้าประทานทุกสิ่งที่พระองค์ทรงมีไว้ให้กับเรา

กล้าที่จะเชื่อว่าพระเจ้าทรงเตรียมคุณไว้ และจะไม่ทิ้งคุณไว้ตามลำพังตลอดการเดินทาง พระองค์จะประทานสันติสุขและฤทธิ์เดชของพระองค์ให้กับคุณ เพื่ออยู่เคียงข้างคุณ พระองค์ปรารถนาที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในคุณและผ่านคุณ ส่วนของคุณคือ การกล้าที่จะวางใจในพระองค์

ฉันขอเชิญคุณฟังเพลงนมัสการอันยอดเยี่ยมนี้ “มองที่พระองค์”

คุณคือการอัศจรรย์