จงเดินหน้าต่อไป

ข้อความวันนี้เป็นเรื่องราวประสบการณ์ของศิษยาภิบาลชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง ชื่อ อีริค เซเรอริเย่

“แม้ข้าพระองค์จะเดินฝ่าหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ…” (สดุดี 23:4)

ครั้งหนึ่ง ขณะที่ผมอยู่ที่อิสราเอล ชาวเบดูอินได้พาผมไปดูหุบเขาที่แคบมาก แสงอาทิตย์ส่องไม่ถึงเลย ชาวเบดูอินบอกผมว่า “หุบเขานี้มืดมัวอยู่เสมอ แม้จะเป็นตอนกลางวันแสกๆ มันเป็นหุบเขาแห่งเงาแห่งความตายจริงๆ ถ้าคุณประสบอุบัติเหตุในหุบเขานี้ ไม่มีใครหาคุณเจอแน่” เพื่อให้แน่ใจว่าผมเข้าใจเขาอย่างชัดเจน เขาพูดเสริมว่า “แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่มี”

บางครั้ง เราต้องเดินผ่านหุบเขาลักษณะนี้ มันมืดมิด มืดสนิทเสียด้วย เราไม่รู้ว่าจะหนีอย่างไร ความกลัวเข้าปกคลุมเรา… แม้แต่การเชื่อมต่อกับพระเจ้าก็ดูเหมือนจะถูกตัดขาด

วันหนึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับเพื่อนของผมชื่อ สเตเฟน ผ่านทางสดุดี 23:4 เขาเพิ่งได้รับแจ้งว่าไตข้างหนึ่งของเขาเป็นมะเร็ง และมีก้อนเนื้อร้ายที่แพร่กระจายไปยังสมอง การวินิจฉัยของแพทย์นั้นเลวร้ายมาก เมื่อสเตเฟนต้องเข้ารับการผ่าตัดสองครั้ง พระเจ้าทรงตรัสกับเขาผ่านข้อความนี้ สเตเฟนบอกกับตัวเองว่า “ผมกำลังอยู่ในหุบเขาเงามัจจุราช แต่พระเจ้าทรงบอกให้ผมเดินต่อไป ดังนั้น ไม่ว่าข่าวหรือสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ผมจะวางใจในพระเจ้าและเดินต่อไป”

เราอธิษฐานด้วยกัน และพระเจ้าได้ทรงทำการอัศจรรย์ในชีวิตของสเตเฟน ศัลยแพทย์ที่ผ่าตัดสมองของเขาพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ฉันไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน คุณมีก้อนเนื้อร้ายที่แพร่กระจายจากไตไปยังสมอง แต่ก้อนเนื้อนั้นกลับไม่ใช่เนื้อร้ายอีกต่อไปแล้ว”

สเตเฟนทำสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเขายังคงเดินต่อไป ตอนนี้เขาสบายดีมาก ทำหน้าที่ในครอบครัวและหน้าที่การงานด้วยความสุข เขามาเล่าให้ผมฟังว่า “ในยามยากลำบากของชีวิต คำถามของผมไม่ใช่ ‘ทำไม พระเจ้า?’ อีกต่อไป แต่เป็น ‘พระเจ้า ลูกควรเดินผ่านหุบเขานี้ไปกับพระองค์อย่างไรดี?’”

ขณะที่คุณฟังเพลงนมัสการอันทรงพลังที่ชื่อว่า “พระคุณซ้อนพระคุณ” นี้ 

ขอให้พระเจ้าทรงสำแดงพระเมตตาและพระคุณของพระองค์แก่คุณ ท่ามกลางความมืดมิดที่คุณอาจกำลังเผชิญอยู่ในชีวิตของคุณ

ถ้าหากคุณกำลังเดินผ่านหุบเขาที่มืดมิดอยู่ในขณะนี้ จงเดินต่อไป อย่าหยุดที่จะวางใจในพระเจ้า เดินต่อไป ฉันเชื่อว่าขณะที่คุณเดิน คุณจะพ้นจากหุบเขานี้ในไม่ช้านี้

คุณคือการอัศจรรย์