มายอมรับความจริงกันเถอะ

วันนี้เรามายอมรับความจริงแบบเต็มที่กันเถอะ ปกติแล้ว ฉันจะเขียนถึงการอัศจรรย์ที่เคยเกิดขึ้นกับผู้เชื่อมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้มีประสบการณ์แบบนั้นด้วย ฉันมี “พื้นที่ที่กำลังอยู่ในช่วงการก่อสร้าง” ในชีวิตของฉัน และฉันจงใจเรียกแบบนั้น เพราะมันหมายความว่า งานของพระเจ้ายังไม่ “สำเร็จ” ในตัวฉัน

คุณคงเคยเห็นถนนที่สร้างไม่เสร็จสักที ซึ่งแถวบ้านฉันเป็นแบบนั้น คนขับรถส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัด

ฉันเชื่อว่าคุณเองก็เคยติดอยู่ในเขตก่อสร้างในบางช่วงเวลาของชีวิต แม้ชีวิตจะดำเนินไป แต่ก็เหมือนการอยู่นิ่งๆ ไม่ไปไหน ดังนั้น ขอให้คุณรอ ถ้าสถานการณ์นี้คือชีวิตของคุณในเวลานี้ ฉันอยากจะให้ความมั่นใจกับคุณว่า คุณสามารถไว้วางใจพระเจ้าได้ว่าทุกสิ่งจะเกิดผลดีในที่สุด ( อ่านเพิ่มเติมในพระธรรม โรม 8:28)

วันนี้ฉันขอแชร์เรื่องสั้นๆนี้กับคุณ? ผู้นำนมัสการท่านหนึ่งเล่าให้ฉันฟังว่า “ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีปัญหากับการมองเห็น แต่เมื่อไม่นานมานี้ อยู่ๆตาของฉันข้างหนึ่งก็มองเห็นไม่ค่อยชัด คุณหมอเจอสาเหตุบางอย่างที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ แน่นอนมันไม่ใช่การวินิจฉัยที่ฉันคาดหวัง แต่พอได้ยินอย่างนี้ ฉันได้เรียนรู้ว่า ฉันและคุณหมอไม่สามารถทำอะไรได้เลย มันเป็นเวลาที่จะให้พระเจ้าทำงาน”

เหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายอย่างนี้ เหมือนบังคับให้เรารออยู่ในเขตการก่อสร้าง แต่คุณรู้ไหม คุณสามารถรับกำลังใหม่สำหรับความอดทนได้เสมอ เพื่อไว้วางใจ และเพื่อจะดำเนินชีวิตต่อไปในการทรงสถิตของพระเจ้าได้

“แต่เขาทั้งหลายผู้รอคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปีกเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย เขาจะเดินและไม่เหน็ดเหนื่อย” (อิสยาห์ 40:31)

การรอคอยพระเจ้าหมายถึง การหวังในพระองค์อย่างมีความหวัง ไว้วางใจในพระลักษณะของพระองค์ และไม่ใช่กำลังของตัวเราเอง ในการรอคอย พระเจ้าจะให้กำลังใหม่แก่คุณวันต่อวัน พระเจ้าจะให้อำนาจคุณในการต่อสู้กับสถานการณ์ต่างๆ และพบกับชัยชนะ

วันนี้ ขอเชิญชวนให้เรามาเลือกที่จะรอคอยพระเจ้า และอยู่กับพระองค์กันเถอะ 

คุณคือการอัศจรรย์