“ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือ ยังคงมีความหวังอยู่…” คุณเคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อนไหม? มันอธิบายสถานการณ์ได้เมื่อพูดโดยมนุษย์ ไม่มีอะไรเป็นไปได้เลย… ใครๆก็ทำได้เพียงคาดหวังถึงการอัศจรรย์เท่านั้น
ฉันแน่ใจว่าคุณคงเคยได้ยินคนพูดว่า “ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือ การอธิษฐาน… เพราะเราต้องการการอัศจรรย์” นี่เกิดจากสถานการณ์ที่ไม่มีอะไรสามารถเป็นไปได้ในมุมมองของมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างที่สำคัญคือ เราไม่ควรแค่มีความหวังซึ่งเหมือนเราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ต้องอธิษฐานด้วย การอธิษฐานเป็นการแสดงถึงการมีส่วนร่วม เมื่อเราอธิษฐาน บางสิ่งจะเปลี่ยนไป เราไม่ได้แค่หวังแบบลมๆแล้งๆอีกต่อไป เราหวังในพระเจ้า และใครก็ตามที่มีความหวังในพระเจ้า เขาจะพบกับการอัศจรรย์
“…เรามีความหวังในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์….” (1 ทิโมธี 4:10)
มีอีกคำหนึ่งในพระคัมภีร์ ซึ่งคุณอาจจะเคยได้ยินมาก่อน แต่วันนี้ ฉันอธิษฐานว่า คุณจะค้นพบถึงความเข้าใจของตนเองทั้งหมดในรูปแบบใหม่
“เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เมื่อพวกท่านอธิษฐานขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ แล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น” (มาระโก 11:24)
พระคำตอนนี้บอกคุณว่า หลังจากที่คุณอธิษฐาน ความหวังของคุณไม่ได้สิ้นสุดลง หลังจากที่คุณได้เริ่มต้นอธิษฐานด้วยความหวัง คุณได้รับโอกาสที่จะเชื่อว่า…บางสิ่งจะเกิดขึ้น
คุณหยุดอธิษฐานสำหรับการอัศจรรย์ของคุณเมื่อไหร่? โปรดเข้าใจและเชื่อใหม่ว่า การอัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อเราอธิษฐานเผื่อผู้คน อย่าอธิษฐานแค่สถานการณ์ของคุณเองและพูดว่า “ตอนนี้ฉันทำได้แค่อธิษฐานเท่านั้น”
“และความหวังจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” (โรม 5:5)
ฉันขอแบ่งปันเคล็ดลับอีกอันหนึ่งกับคุณในวันนี้? การอธิษฐานเป็นการนำคุณก้าวออกมาจากสถานการณ์ปัจจุบันของคุณ เพราะคุณได้มอบมันไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าแล้ว 100%
จงหวัง อธิษฐาน และเชื่อ
คุณคือการอัศจรรย์